สถานทูตสหรัฐเปิดตัว ‘เนื้อวัวติดกระดูก’ กลับสู่ตลาดไทยอีกครั้งในรอบ 14 ปี

สถานทูตสหรัฐอเมริกาจัดจัดงานเฉลิมฉลองต้อนรับการกลับมาของ “เนื้อวัวติดกระดูก” นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา ที่กลับมาวางตลาดในประเทศไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี ที่บ้านพักนายกลิน ที เดวีส์เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ถนนวิทยุ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อ “U.S.Bone-in Beef is Back” นำเสนอเนื้อติดกระดูก “อเมริกันโทมาฮอก” นุ่มชุ่มฉ่ำละลายในปาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นโดยกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (ยูเอสดีเอ) ประจำสถานเอกอัครราชทูตอเมริกาประจำประเทศไทย โดยได้รับความร่วมมือจากองค์กรส่งเสริมการส่งออกเนื้อของสหรัฐอเมริกา เพื่อแนะนำสินค้าเนื้อวัวติดกระดูกนำเข้าให้กับผู้ประกอบการ ร้านอาหารโรงแรม ผู้ค้าปลีกรวมถึงประชาชนชาวไทยผู้ที่ชื่นชอบรสชาติของเนื้อวัวติดกระดูกที่มีคุณภาพ

เชฟสาธิวิธีการย่าง “อเมริกันโทมาฮอก”

โดยระหว่างการจัดกิจกรรมได้มีการสาธิตการทำสเต็กโดยเชฟมืออาชีพโดยใช้วัตถุดิบเนื้อวัดติดกระดูกนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น “อเมริกันโทมาฮอก” “เนื้อริบอาย” “ทีโบน” ส่งตรงจากฟาร์มสหรัฐอเมริกา โดยปัจจุบันสามารถหาซื้อได้แล้วในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป

นายกลิน ที เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ระบุถึงความพิเศษของเนื้อนำเข้าจากสหรัฐอเมริกาว่า วัวเนื้อสหรัฐนั้นเลี้ยงด้วยข้าวโพดสหรัฐอเมริกา เลี้ยงในบรรยากาศทุ่งหญ้าท่ามกลางแสงแดด ในสหรัฐอเมริกา ประเทศที่มีประชากร 350 ล้านคน ซึ่งกินเนื้อมานานกว่า 100 ปีแล้ว ในส่วนของกระทรวงเกษตรสหรัฐนั้นก็มีกระบวนการที่ทำให้แน่ใจว่าเนื้อวัวสหรัฐอเมริกานั้นปลอดภัย อร่อย และควบคุมเป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นชาวอเมริกันจึงมั่นใจอย่างยิ่งว่าเนื้อที่บริโภคนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

Advertisement
นายกลิน ที เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทยโชว์ฝีมือย่างสเต็กเนื้อนำเข้าจากสหรัฐ

“เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ เนื้อติดกระดูกจากสหรัฐได้กลับมาสู่ตลาดประเทศไทยอีกครั้งหลังระยะเวลา 14 ปี ผมเชื่อว่าคนไทยซึ่งมีความเข้าใจว่าอาหารที่ดีคืออะไรนั้นจะชอบเนื้อสหรัฐ  เนื้อติดกระดูกนั้นมันให้รสชาติที่ดีมาก และตอนนี้มีขายแล้วในไทย ผมหวังว่าคนไทยจะได้รับสารจากเราว่าเนื้อติดกระดูกสหรัฐนั้นได้กลับมาแล้ว” นายเดวีส์ ระบุ

ด้านซาบรินา ยิน ผู้อำนวยการส่งเสริมการส่งออกเนื้อวัวสหรัฐอเมริกาภูมิภาคอาเซียนระบุว่า ข้อดีของเนื่อสหรัฐคือการเลี้ยงวัวเนื้อด้วยข้าวโพดและพบว่าวิธีการเลี้ยงดังกล่าวซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับ 100 ปีนั้นส่งผลให้เนื้อมีรสชาติที่พิเศษ มีไขมันมันแทรกให้รสสัมผัสเนื้อมีความนุ่มชุ่มฉ่ำและอร่อย

ซาบรินา ยิน

ซาบรินา ระบุว่า แม้ในไทยรวมถึงไทยภูมิภาคอาเซียนจะไม่คุ้นเคยกับการบริโภคสเต็กเนื้อเหมือนชาติตะวันตก แต่ตนเชื่อว่าด้วยคุณค่าทางสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย รวมถึงการเปิดรับวัฒนธรรมตะวันตกมากขึ้นเชื่อว่าคนไทยจะรับประทานเนื้อมากขึ้น ประกอบกับราคาที่ไม่แพงนักในระดับที่ผู้มีรายได้ปานกลางสามารถเข้าถึงได้ อาจหาซื้อความสุขได้ด้วยการทานเนื้อคุณภาพดีๆได้ด้วยเช่นกัน

ผู้อำนวยการส่งเสริมการส่งออกเนื้อวัวสหรัฐ ชาวสิงคโปร์ระบุว่า แม้ไทยจะไม่ใช่ตลาดส่งออกเนื้อสหรัฐอันดับต้นๆในภูมิภาคนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลจากภาษีนำเข้าในระดับสูง แต่ก็เชื่อว่าจะสามารถเพิ่มมูลค่าการส่งออกเนื้อมายังไทยได้ในอนาคต สำหรับประเทศที่นำเข้าเนื้อสหรัฐอันดับ 1 ในอาเซียนคือ ฟิลิปปินส์ รองลงมาคือ สิงคโปร์ และเวียดนาม

ซาบรินา แนะนำวิธีการปรุงสเต็กเนื้อนำเข้าสหรัฐโดยเฉพาะ “อเมริกันโทมาฮอก” หรือชิ้นส่วนเนื้อริบอายติดกระดูกซี่โครง ให้มีรสชาติที่ดีว่า จำเป็นจะต้องมีเตาย่างที่ร้อนเพียงพอและ แนะนำว่าให้ปรุงเพียงเกลือและพริกไทยเท่านั้น และสุกให้อยู่ในระดับไม่เกิน “มีเดียม” เท่านั้น เนื่องจากจะให้รสสัมผัสที่ดีที่สุด

เชฟโชว์ผลงานสเต็กจากเนื้อ “อเมริกันโทมาฮอก” ชิ้นยักษ์
เนื้อวัวติดกระดูก “อเมริกันโทมาฮอก” และ “ทีโบน” นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image