นักกีฬาคนพิการ 70 คน เข้าชมพระเมรุมาศ เผยใช้คำสอนร.9 เป็นแรงสู้ แทนคุณแผ่นดิน

เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการเดินทางเข้าชมพระเมรุมาศและนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินพระมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ ท้องสนามหลวง เปิดให้ประชาชนเข้าชม ตั้งแต่วันที่ 2-30 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันที่ 16 ของการเปิดให้เข้าชม โดยประชาชน คณะสงฆ์ นักเรียน นักศึกษา จำนวนมากหลั่งไหลเดินทาง ผ่านเข้าจุดคัดกรองเพื่อรอเข้าชมนิทรรศการฯอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ทั้งนี้เมื่อมาถึงทุกคนจะได้รับแจกน้ำดื่ม และแผ่นพับคำแนะนำการเข้าชมนิทรรศการ ร่วมถึงบัตรติดหน้าอก ก่อนเข้าไปนั่งในเต็นท์พักคอย ที่เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมไว้ทางสนามหลวงฝั่งทิศเหนือ ก่อนเข้าชมนิทรรศการทั้ง 6 หลังและพระเมรุมาศ ทั้งนี้จะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก และประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้ ตลอดเส้นทางการเข้าชม

นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตนและตัวแทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) พานักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย จำนวน 70 คน เดินทางมาเข้าชมนิทรรศการ ซึ่งนักกีฬาคนพิการเทิดทูลในหลวงรัชกาลที่ 9 มาก พระองค์ทรงเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬาทุกคน ทรงเห็นความสำคัญของกีฬาคนพิการ ท่านเคยทรงมีพระราชดำรัชไว้ว่า “ผู้พิการมิได้เป็นผู้ที่อยากพิการ แต่อยากช่วยตัวเอง ถ้าเราไม่สามารถช่วยเขาให้สามารถที่จะปฏิบัติงานอะไรเพื่อชีวิตและมีเศรษฐกิจของครอบครัว จะทำให้เกิดสิ่งที่หนักในครอบครัว หนักแก่ส่วนรวม ฉะนั้น นโยบายจะต้องช่วยเขาให้ช่วยตนเองได้ เพื่อที่จะให้เขาสามารถเป็นประโยชน์ต่อสังคม” ซึ่งตนก็ให้โอกาสผู้พิการได้ออกกำลังกาย ด้วยการเล่นกีฬาให้มีความมั่นใจ มีความภาคภูมิใจ อยากให้พวกเขามีความสำคัญต่อประเทศชาติ จึงเปิดโอกาสให้พวกเขาได้ไปสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ และได้เงินรางวัลมาลงทุน มาเลี้ยงครอบครัวเลี้ยงพ่อแม่ได้

Advertisement

น.ส.อรวรรณ บุตรโพธิ์ นักกีฬายกน้ำหนัก รุ่น 73 กิโลกรัม ทีมชาติไทย กล่าวว่า คณะนักกีฬาคนพิการเพิ่งเดินทางกลับหลังจากเดินทางไปแข่งขันอาเซียนพาราเกมส์ 2017 ที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งตนได้เหรียญเงิน และที่ผ่านมาก็มีในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นแบบอย่างในเรื่องความเพียรพยายาม และความกตัญญูที่พระองค์ทรงมีต่อสมเด็จย่า และทุกครั้งที่ดูสารคดีจะเห็นพระองค์ท่านทรงทำเพื่อคนไทยแม้หนทางจะยากลำบากพระองค์ก็เสด็จฯไปถึง

“ดีใจที่เกิดในรัชกาลที่ 9 เรามีพระมหากษัตริย์ที่รักและทำเพื่อประชาชนเปรียบเสมือนพ่อของปวงชน อยู่ที่ไหนก็ไม่เหมือนอยู่ประเทศไทย หนูเคยรับเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ในปี 2532 ที่ จ.อุดรธานี ตอนนั้นหนูเพิ่งอายุ 5 ขวบ พระองค์รับไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้รับการรักษาฟรี หลังจากนั้นพ่อหนูก็ได้เป็นคนไข้ในพระบรมราชูปถัมภ์ด้วย เพื่อรักษาตาฟรี ซึ่งถ้าให้รักษาเองก็คงไม่มีโอกาสหลังจากนั้นชีวิตหนูก็ดีขึ้น นับเป็นบุญของหนูและพ่อ ทุกครั้งที่เดิมทางไปแข่งกีฬาก็จะคิดถึงพระองค์ท่านว่าเราจะต้องทำเพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน พอคิดถึงพระองค์ก็จะมีแรงสู้”น.ส.อรวรรณกล่าว

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณทางออกฝั่งทิศตะวันออกริมทางออก เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ได้นำผลิตภัณฑ์จากโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา อาทิ นมสด น้ำผลไม้กระป๋อง น้ำผึ้ง ไอศกรีม และเจลล้างมือ สบู่ ครีมที่สกัดจากใบมะกอกโอลีฟ ฯลฯ มาจำหน่าย ภายในอาคารทิม นอกจากนี้ ยังได้นำผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 อาทิ ผ้าฝ่ายทอมือ ผ้าไหม หมอน ตุ๊กตาชาววัง เครื่องจักสานย่านลิเภา และข้าวกล้องจากโครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ดอกไม้ประดิษฐ์ ฯลฯ มาจำหน่าย ตั้งแต่เวลา 08.00-22.00 น. โดยประชาชนที่เดินทางมาชมนิทรรศการเสร็จแล้วได้แวะไปเลือกซื้อผลิตภัณฑ์กันเป็นจำนวนมาก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image