เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการแก้ไขปัญหาที่ดินบนเขาค้อว่า ล่าสุดได้มีการนำเรื่องนี้เข้าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าแห่งชาติ (คปป.) มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธาน นอกจากนี้ยังมีการตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาเรื่องเขาค้อโดยอยู่ภายใต้ คปป. ซึ่งตอนนี้มีความพยายามนำตัวแทนส่วนราชการต่างๆ ทั้งกองทัพภาคและทางฝ่ายปกครองเข้ามาช่วยกันแก้ปัญหา แต่เนื่องจากค่อนข้างละเอียดอ่อนต้องค่อยๆ แก้กันไปทีละเปลาะ พื้นที่นอกแปลง รอส.และพื้นที่ รอส.จะทำอย่างไร และยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวจึงต้องมีความระมัดระวังเรื่องการทำงาน ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดผลกระทบต่อความรู้สึกของคนที่อยู่ในพื้นที่และนักท่องเที่ยว
นายอรรถพลกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ทหารจะคืนพื้นที่ขอใช้ประโยชน์จากกรมป่าไม้บนเขาค้อนั้น ได้มีมติเรียบร้อยแล้วเพียงแต่ขั้นตอนการคืนก็ยังต้องมีการพูดคุยกันถึงสภาพพื้นที่ในปัจจุบัน เพราะจะมี พ.ร.บ.ป่าสงวนฯ ที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตโดยจะมีเรื่องเงินชดเชยเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงต้องเคลียร์ปัญหานี้ให้ได้ก่อนและยังมีปัญหาคนที่เข้าไปอยู่ในพื้นที่โดยไม่ถูกต้องจะต้องร่วมกันทำงานแก้ไขก่อน สุดท้ายจึงค่อยนำไปสู่เรื่องการคืนป่าให้ครบถ้วนตามขั้นตอนกฎหมาย นอกจากนี้ทางกองทัพบกก็ยังมีแนวทางจะคืนทุกๆ พื้นที่ เพียงแต่ว่าก่อนจะคืนจะต้องช่วยแก้ปัญหาร่วมกันก่อน ทางกรมป่าไม้ไม่ได้ควบคุมพื้นที่บริเวณนี้มานานแล้ว จึงไม่รู้ว่าพื้นที่ไหนมีประวัติศาสตร์เป็นยังไง โดยเฉพาะเรื่องการคัดกรองคนเข้าไปครอบครองพื้นที่เดิม ตรงนี้กรมป่าไม้ไม่มีข้อมูลเพราะฉะนั้นทางฝ่ายทหารจะรู้เรื่องนี้ดี จึงต้องทำงานร่วมกันก่อน โดยจะต้องคัดกรองส่วนไหนจะต้องดำเนินคดี จะผ่อนปรนหรือจะอนุญาตให้อยู่ต่อก็มีหลายพื้นที่ อาทิ พื้นที่ส่วนราชการ บ้าน วัด โรงเรียน ฯลฯ หรือพื้นที่จะใช้เป็นประโยชน์เพื่อส่วนรวม ต้องกันออกมาเพื่อขอใช้ประโยชน์ต่อ
“ในการแก้ไขส่วนนี้จะเป็นโมเดลการแก้ไขปัญหาอย่างถูกวิธีแต่ต้องใช้เวลา ไม่ใช่แก้ปัญหาแบบฟันฉับทีเดียวได้ ไม่เช่นนั้นจะเกิดผลกระทบและทำให้ปัญหาซ้ำซ้อนขึ้นมาอีกทำให้แก้ยาก ฉะนั้นจึงต้องวางทามไลน์โดยแก้ไขปัญหาเริ่มจากเบาไปก่อน โดยค่อยๆ เขี่ยออกมาทีละเรื่องจึงต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนานพอสมควร แต่จะทำให้ความรู้สึกของคนเขาค้อและผู้ประกอบการบนเขาค้อ ค่อยๆปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจจนค่อยๆลงตัวไปเรื่อยๆ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้มีการตัดวัฏจักรการซื้อขายที่ดินบนเขาค้อแล้ว โดยตัดวงจรนายทุนจะเข้ามากว้านซื้อที่ดินในลักษณะเก็งกำไรได้แล้ว ตอนนี้หยุดแล้วเพียงแต่เราจะแก้ปัญหาคาราคาซังต่อไปอย่างไรซึ่งต้องใช้เวลาแก้กันไปทีละสเต็ป” นายอรรถพลกล่าว
รองอธิบดีกรมป่าไม้กล่าวต่อว่า จากกระแสข่าวที่คณะเจ้าหน้าที่ลงไปทำงานที่เขาค้อ-ภูทับเบิกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโด่งดังและเป็นที่สนใจของประชาชนทั่วทั้งประเทศ ทำให้นายทุนโดยเฉพาะรายใหญ่ๆไม่กล้าจะมาซื้อที่ดินเหล่านี้ เพราะมีความเสี่ยงที่สำคัญไม่ใช่ที่ดินที่ถูกต้องตามกฎหมาย เรื่องนี้จึงตัดออกไปได้ยกเว้นจะไปหลอกขายคนที่ไม่รู้เรื่องจริงๆ แต่ทั้งนี้ขบวนการซื้อขายจะต้องผ่านหลายทาง โดยเฉพาะผู้ปกครองในท้องที่หากเข้ามายุ่งเกี่ยวก็ถือเป็นการสนับสนุนการกระทำผิด
