ไทยแลนด์โอนลี่ ! “นิกร” บอกประเทศเดียวในโลกใช้ลต.แบบจัดสรรปั่นส่วนผสม ทำพรรคการเมืองเล็กลง เปิดทางรบ.ผสม – นายกฯคนนอก
เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงวิธีการคิดคำนวนส.ส.แบบจัดสรรปั่นส่วนผสมว่า เป็นระบบที่ประเทศไทยใช้แห่งเดียวในโลก ถือเป็นเรื่องใหม่มากที่นักวิชาการทางการเมืองคิดขึ้นมา โดยมองว่า ที่ผ่านมาการเมืองเสียดุลยภาพ เพราะมีพรรคการเมืองขนาดใหญ่ที่ได้รับเสียง ส.ส.เกินครึ่งไปมาก จึงเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งที่รุนแรง ไม่สามารถลดลาวาศอกกันได้ จนนำไปสู่การยึดอำนาจ ซึ่งแนวคิดนี้ได้ไปสอดคล้องกับฝ่ายที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งด้วย จึงทำให้ระบบเลือกตั้งแบบจัดสรรปั่นเกิดขึ้นเพื่อทำให้พรรคการเมืองเล็กลง โดยพรรคการเมืองขนาดใหญ่จะได้เสียงเกินครึ่งเป็นเรื่องยาก ยกเว้น จะ ใช้กลยุทธ์แยกกันเดินรวมกันตี โดยแยกกันเป็นภาคีพรรคการเมืองแบ่งเป็น 2-3 พรรค แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น รัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ไม่อนุญาติให้พรรคควบรวมกันหลังจากการเลือกตั้งอยู่ดี ซึ่งนั่นก็เท่ากับว่า พรรคขนาดใหญ่พรรคเดียวจะมีโอกาสน้อยมากที่จะได้เสียงเสียงเกินครึ่ง ดังนั้น ผลการเลือกตั้งครั้งแรกที่จะเกิดขึ้น จะประเมินไม่ได้ แต่การเมืองหลังการเลือกตั้งที่ประเมินได้แน่ๆก็คือ เสียง ส.ส.จากพรรคการเมืองต่างๆที่ประชาชนเลือกมาจะไม่สามารถโหวตเลือกนายกฯที่เป็นส.ส.ได้ ยกเว้น พรรคการเมืองที่ขัดแย้งกันจะรวมกันได้ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้อีก และนั่นก็หมายถึงการเปิดทางให้คนนอกที่ไม่ได้เป็นส.ส.เข้ามาเป็นนายกฯตามที่บทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 เปิดช่องไว้
“สิ่งที่เป็นคำถามอยู่ก็คือโจทย์ที่ต้องการจะสร้างดุลยภาพแก้ความขัดแย้งนั้น จะแก้ได้บ้างหรือไม่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแน่ๆคือรัฐบาลอ่อนแอไร้เสถียรภาพ ถามว่า หากใช้ไปแล้วเกิดปัญหามาก แล้วจะแก้ไขในอนาคตได้หรือไม่ ตอบเลยว่า แก้ไขไม่ได้ เพราะระบบเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสมถูกผูกเงื่อนตายไว้ในรัฐธรรมนูญแล้ว กฏหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นเพียงการเขียนขึ้นตามรัฐธรรมนูญเท่านั้น ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็แทบทำจะไม่ได้ เพราะมีค่ายกลเจ็ดดาวล็อกอยู่อย่างแน่นหนาตามที่ได้เคยอภิปรายไว้” นายนิกร กล่าว
