คำตอบ”เพื่อประเทศ” โดย สุชาติ ศรีสุวรรณ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา(แฟ้มภาพ)

ถึงวันนี้ 6 คำถามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โยนมาให้ประชาชนคิดคำตอบ ได้กลายเป็นช่องทางสายใหญ่ที่เปิดให้การแสดงออกทางการเมืองหลั่งไหลกันมาคับคั่งไม่น้อย

การแสดงออกต่อคำถามดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นท่าที ความคิดเห็น หรือการตอบคำถาม มีออกมามากมาย

ยังไม่มีคำตอบจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คสช.Ž ว่าจะเอาคำตอบอย่างเป็นทางการที่ให้ประชาชนต้องแสดงบัตรประชาชนให้บันทึกไว้ก่อนตอบคำถามผ่าน ศูนย์ดำรงธรรมŽ ที่ควบคุมโดยกระทรวงมหาดไทย กระจายอยู่ทั่วประเทศไปทำอะไร

แต่การคาดเดาลักษณะการหาคำตอบคล้ายจะเป็นกึ่งประชาพิจารณ์ หรือประชามติอย่างเป็นทางการเช่นนี้ไปไกลแล้วสำหรับการประเมินบทบาทของผู้มีอำนาจในปัจจุบันต่ออนาคตการปกครองของประเทศ

Advertisement

ที่น่าสนใจเป็นการตอบคำถามที่ไม่ยอมเป็นทางการ อันคือไม่ต้องแสดงบัตรประชาชนให้บันทึกไว้ก่อนตอบคำถามฝากไว้ที่ ศูนย์ดำรงธรรมŽ เป็นการตอบคำถามผ่านสื่อมีความคึกคักอย่างยิ่ง

แม้สื่อสาธารณะที่เป็นสื่อหลัก ไม่ว่าจะเป็นทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ จะไม่ถือเอาคำตอบเหล่านี้เป็นประเด็นสำคัญ ซึ่งอาจจะด้วยตระหนักถึงข้อจำกัดบางอย่าง แต่สื่อออนไลน์ที่ผู้ต้องการแสดงความเห็น หรือตอบคำถามทุกคนเข้ามาใช้ได้เต็มที่ สื่อตรงกับสาธารณชนได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านการกลั่นกรองของใครกลับหยิบมาเป็นโอกาสในการแสดงออกอย่างร้อนแรงยิ่ง

ปรากฏการณ์ที่ต้องเงี่ยหูฟังเป็นพิเศษตรงที่ คำตอบส่วนใหญ่หรือจะว่าไปแทบทั้งหมดเป็นไปในทางเดียวกัน

Advertisement

ที่สำคัญคือ คนที่ร่วมเดินในแนวทางความเห็นทิศทางเดียวกันนี้ โดยเฉพาะนักการเมืองกลับปรากฏให้เห็นความเห็นร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวของคนจากพรรคที่เคยเห็นต่างกันทุกเรื่องในอดีต

ก่อนหน้านั้นนักการเมืองจากต่างพรรคจะแสดงให้เห็นความคิดที่แตกต่างกันทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ เรื่องถูก เรื่องผิด เมื่อฝ่ายหนึ่งเห็นไปในทางใด อีกฝ่ายจะเห็นไปอีกทางทันที

แต่วันนี้ สำหรับคำตอบในคำถามของ พล.อ.ประยุทธ์ การเลือกเดินคนละทางอย่างเข้มข้นนั้นเป็นอดีตไปแล้ว

นักการเมืองพร้อมใจเห็นไปในทางเดียวกัน จะแตกต่างกันบ้างก็เป็นเพียงรายละเอียดที่มองผ่านเลยเสียก็ได้

แต่ที่น่าสนใจที่สุดคือ คำถามของ พล.อ.ประยุทธ์ทั้งล่าสุด 6 ข้อ และก่อนหน้านั้น 4 ข้อ รวมเป็น 10 ข้อ

กลับกลายเป็นตัวจุดความคิดให้เกิดคำถามใหม่ขึ้นมา

เป็นคำถามที่ออกมาในทำนอง “ทำไมการเมืองไทยต้องคืนย้อนกลับมาสู่อำนาจของกองทัพอยู่เสมอ ทำไมประชาธิปไตยสถาปนาอย่างมั่นคงในการเมืองการปกครองไทยเหมือนที่เป็นในนานาประเทศไม่ได้Ž”

เป็นคำถามที่เลยไปถึงการหาคำตอบว่า ”ทั้งที่กองทัพพยายามครั้งแล้วครั้งเล่าในการสร้างกติกามารองรับการดำรงอยู่ของอำนาจในกรอบภาพประชาธิปไตย แต่ไฉนกองทัพทำไมไม่สามารถยืนยาวอยู่ในอำนาจที่เพียบพร้อมทั้งกำลัง อาวุธ และกฎหมายที่รองรับนั้นได้ ที่สุดแล้วต้องยอมให้รัฐบาลที่มาจากประชาชนเข้ามาทดแทนเสมอมาŽ”

และเลยไปถึงคำถามที่ว่า “อะไรทำให้รัฐบาลจากประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยที่สากลโลกยอมรับอยู่
ไม่ได้ จนทำให้กองทัพมีเหตุผลที่จะเข้ามายึดอำนาจ และร่างกติกาที่คิดว่าจะทำให้อยู่ได้ยืนยาวมารองรับใหม่ ด้วยความหวังว่าจะอยู่ได้ยืนยาวอีกครั้งทุกทีไปŽ”

ไม่เพียงเท่านั้น ยังทะลุไปถึงคำถามที่น่าช่วยกันหาคำตอบมากที่สุดสำหรับคนที่เป็นห่วงเป็นใยอนาคตของประเทศ คนที่ถามญาติสนิทมิตรสหายที่พอจะคุยกันได้ โดยไม่รู้สึกระแวงความปลอดภัยในชีวิตว่า ”ประเทศชาติจะเป็นอย่างไร”

นั่นคือคำถามที่ว่า “เมื่อไรประเทศชาติอันเป็นที่ประชาชนต้องฝากชีวิตและความหวังไว้ จะเป็นประเทศที่มีระบอบการปกครองที่เอื้อต่อการพัฒนาชาติอย่างมีประสิทธิภาพได้ระบบใดระบบหนึ่ง อย่างมั่นคง ยั่งยืน ไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนก่อความไม่มั่นคงต่อจิตใจของประชาชนในชาติตลอด”Ž

นี่คือคำถามสำคัญ เพราะความหมายที่แท้จริงของ ความมั่นคงŽ ย่อมคือ “ความรู้สึกของประชาชนที่มีต่อประเทศชาติ ความรู้สึกที่ว่าเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการพัฒนาให้เจริญรุ่งเรืองได้ ประชาชนทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างปลอดภัย และมีเสรีภาพในการใช้ชีวิต”Ž

เหล่านี้เป็นคำถามที่เริ่มจะหาคำตอบกันอย่างจริงจัง

………………..

สุชาติ ศรีสุวรรณ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image