| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
ปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถือว่ามีสีสัน “ฉูดฉาด” มากสุด
เป็นรัฐมนตรีที่ “โพล” ชี้ว่า ควรเป็นผู้ที่ถูกปรับออกจากตำแหน่งมากสุด
แต่ก็เป็นรัฐมนตรีที่มั่นคงมากที่สุดคนหนึ่ง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา การันตีให้เองแล้วว่า “ยังอยู่” เพียงแต่ไม่ชัดจะให้ “อยู่ที่ไหน” เท่านั้น
สะท้อนว่า ถึงไม่ใช่ “กล่องดวงใจ” แต่ก็เป็นเพื่อนที่มีสัมพันธ์ “ไม่ธรรมดา” กับ พล.อ.ประยุทธ์
แม้ว่า กว่าจะได้การันตีจากเพื่อน ต้องลงทุนลงแรงมากหน่อย และแถมดูอย่าง “ย้อนแย้ง” กับท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ผ่านมา อยู่บ้างแต่ก็ “ทำ”
ประเด็นหนึ่งที่เราเห็นก็คือ ในช่วงที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ค่อยชอบการปลุกมวลชนออกมาเคลื่อนไหวสักเท่าไหร่
แต่ในท่ามกลางกระแสการปรับคณะรัฐมนตรีคราวนี้ พล.อ.ฉัตรชัย เลือกเล่นเกม “มวลชน” แบบที่รัฐมนตรีคนไหนก็ไม่กล้าเล่น
เราได้เห็นกลุ่มตัวแทนชาวนา ประมง สวนยาง รวมถึงเครือข่ายศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร สลับผลัดเปลี่ยนออกมาสนับสนุน พล.อ.ฉัตรชัย อย่างต่อเนื่อง
พร้อมทั้งเรียกร้องโดยเปิดเผยให้ พล.อ.ประยุทธ์ ตรึง พล.อ.ฉัตรชัย อยู่ในกระทรวงเกษตรฯตามเดิม
ถึงได้บอกว่านี่เป็นความย้อนแย้งอย่างยิ่ง
เพราะที่ผ่านมา หากมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เรามักจะได้ยินเสียงเข้มๆ จาก พล.อ.ประยุทธ์เสมอว่า “อย่ามากดดันผม”
แต่ช่วงเข้าด้ายเข้าเข็ม พล.อ.ฉัตรชัย กลับเลือกเล่มเกมนี้เอง
ได้ผลหรือไม่ได้ผล ไม่รู้ แต่เมื่อได้การการันตีจากเพื่อน ว่าได้อยู่ต่อ ก็น่าอนุโลมได้ว่า “วิธีการ” แบบนี้ได้ผลเหมือนกัน
ส่วนรัฐมนตรีคนอื่นที่คิดจะเลียนแบบ นำเอาไปใช้ก็คงต้องคิดดี คิดให้รอบคอบ
เพราะมี “ต้นทุนสูง” อยู่ไม่เบา
อย่างน้อยที่สุด ก็คงทำให้ “นักการเมือง” ที่เคยถูกดูถูกดูแคลน ยืนก้มหน้ากลั้นหัวเราะเป็นแถวๆ
เพราะวิธีการแบบนี้ “นักการเมืองสามานย์” มักถูกตราหน้าว่าชอบใช้นัก
แล้ว “อิเหนา” มาเป็นเอง เป็นใครก็คงอดเขิน-เขิน ไม่ได้
“ต้นทุน” อีกประการหนึ่ง ที่เกิดขึ้นจากวิธีการที่ พล.อ.ฉัตรชัยใช้ ก็คือกระแสความไม่พอใจในภาคใต้ ที่เราทราบดีว่า มีประชาชนกำลังเดือดร้อนหนัก เรื่องยางพารา ราคาตกต่ำ
มีความพยายามส่งเสียงให้รัฐบาลได้ยิน
แกนนำชาวสวนยางอย่างน้อยสองจังหวัดคือ ตรังและสุราษฎร์ธานี ประกาศจะนำตัวแทนบุกกระทรวง เพื่อเอาข้อเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาไปถึง “รัฐมนตรี”
กลับปรากฏว่า แกนนำ 2 จังหวัด ดังกล่าวถูกนำตัวเข้าค่ายทหาร ขอความร่วมมือ “หยุดความเคลื่อนไหว”
เจอ “ปฏิบัติการ” แบบนี้เข้า ใครจะกล้าหือ นอกจากยอมเพื่อ “ความสงบเรียบร้อย”
แต่ก็เป็นที่เจ็บช้ำน้ำใจน่าดู
เพราะอีกด้าน ปรากฏมีตัวแทนชาวสวนยางพารา โผล่ไปที่กระทรวงเกษตรฯเหมือนกัน
แม้บอกว่าไปเพื่อยื่นข้อเสนอแก้ไขเรื่องยางพาราเหมือนกัน แต่เป้าไม่ใช่รัฐมนตรี กลายเป็นผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทยแทน
ส่วนรัฐมนตรี มีแต่ “ดอกไม้ให้คุณ” และสนับสนุนให้ทำงานต่อไป
“ภาพ” เหล่านี้เสียดแทงเข้าไปในหัวอกชาวไร่ยางพารา โดยเฉพาะภาคใต้ ลึกขนาดไหน ไม่อาจรู้ได้
แต่ก็เห็น พล.อ.ประยุทธ์ และทีมงานโฆษก ออกมาชี้แจงกันพัลวันถึงเรื่องยางและเรื่องที่ไม่อยากให้มีม็อบเข้ามาในกรุงเทพฯ
ฟังขึ้นหรือไม่ คนใต้ คนประชาธิปัตย์ คน กปปส. น่าจะเป็นผู้วินิจฉัยได้ดีที่สุด
ส่วนรัฐมนตรี คงสบายใจไปแล้ว กับการได้คำการันตี อยู่ในคณะรัฐมนตรีต่อไป
……………
สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร
