จนท.ลงตรวจร้านอาหารดังจำหน่ายสัตว์ทะเลหายาก แจงซื้อสะพานปลา-พร้อมช่วยอนุรักษ์

สบทช.9 ลงพื้นที่ขอความร่วมมือร้านอาหารดังหาดกะรนงดจำหน่าย – ช่วยอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายาก หลังโซเชียลโพสต์ เจ้าของร้านรับเป็นภาพเก่า ขอโทษสังคม

จากกรณีเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมาเพจเฟซบุ๊ก Sunshine Sketcher ได้มีการโพสต์ภาพ ฉลามเสือดาว ขณะถูกชำแหละและและฉลามหัวบาตรที่ถูกแขวนโชว์ในร้านอาหารทะเลแห่งหนึ่งซึ่งระบุว่าตั้งอยู่ที่หน้าหาดกะรน อ.เมืองภูเก็ต โดยนทท.ต่างชาติได้บันทึกไว้เมื่อวันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
โดยเพจเฟซบุ๊ก ดังกล่าวได้ระบุว่า “ ความตายที่กะรน ภาพฉลามเสือดาวถูกชำแหละและแขวนโชว์ในร้านอาหารทะเลภาพนี้ (ภาพแรก) ถูกถ่ายได้โดยโดยนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่หาดกะรน จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (10 พ.ย. 2560) ส่วนภาพที่สองเป็นฉลามหัวบาตร เป็นภาพที่ถ่ายจากร้านเดียวกันเช่นกันแต่คนละช่วงเวลาในขณะที่นักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางมายังประเทศไทยจำนวนมากโดยเฉพาะนักดำน้ำ ฝันว่าจะได้มีโอกาสเห็นฉลามเสือดาวใต้ท้องทะเล แต่นอกจากใต้ทะเลที่ว่างเปล่าไม่มีเงาฉลาม ยังต้องมาพบกับสัตว์ทะเลใกล้สูญพันธุ์วางขายอย่างเปิดเผยในร้านอาหารทะเล

ฉลามเสือดาว (Zebra Shark – Stegostoma fasciatum) เป็นฉลามครีบยาว ลำตัวสีเหลืองมีลายจุดสีดำกระจายตลอดลำตัวคล้ายเสือดาว ไม่ดุร้ายและชอบหากินอยู่ตามพื้นทะเล มักพบอยู่บริเวณกองหิน หรือพื้นทรายใกล้แนวปะการัง ตั้งแต่แนวน้ำตื้นจนถึงระดับความลึก 60 เมตร สถานภาพของฉลามเสือดาวน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง และการประเมินล่าสุดโดย IUCN Red List เมื่อปีที่แล้ว จัดให้ฉลามเสือดาวมีสถานภาพใกล้สูญพันธุ์ (Endangered) เพราะมีประชากรลดลงอย่างรวดเร็ว และถูกคุกคามอย่างหนักจากการประมง ด้วยความที่เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศและสร้างมูลค่ามหาศาลให้กับการท่องเที่ยวทางทะเลของประเทศไทย เมื่อปีที่แล้วกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้พยายามผลักดันให้ฉลามเสือดาวให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง แต่ปรากฎว่าถูกทักท้วงจากผู้เชี่ยวชาญบางท่านว่าข้อมูลยังไม่เพียงพอ ทำให้ไม่ผ่านการพิจารณา

ในขณะที่ทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทะเลและสัตว์ที่มีคุณค่าอย่างฉลาม ภาพสัตว์ทะเลหายากที่วางขายอย่างเปิดเผยในภูเก็ต สะท้อนถึงความล้าหลัง ความอ่อนแอ ความไม่สนใจ และความไร้ประสิทธิภาพอย่างถึงที่สุดของงานอนุรักษ์ทางทะเลในบ้านเรา ถึงเวลารึยังที่เราต้องช่วยกันเรียกร้องให้สิ่งเหล่านี้หมดไป และให้การคุ้มครองสัตว์เหล่านี้อย่างที่พวกเขาควรจะได้รับโปรดอย่าสนับสนุนการกินฉลาม และร้านอาหารที่มีเมนูฉลาม เพราะฉลามเป็นๆ มีค่ากว่าฉลามที่ตายแล้วมากมาย”

Advertisement

ทั้งนี้หลังมีการโพสต์ภาพและข้อความดังกล่าวทำให้มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นและแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก รวมถึง ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงค์นาวาสวัสดิ์ รองคณะบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ได้โพสต์กรณีดังกล่าว และเรียกร้องให้ช่วยกันอนุรักษ์ ระหว่างรอการประกาศกฤษฏีกาขึ้นบัญชีเป็นสัตว์สงวนร่วมกับสัตว์ทะเลอื่นอีกหลายชนิดที่ได้ผลักดันมาก่อนหน้า

ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (19 พ.ย.60) เจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 9 ภูเก็ต ( สบทช.9 ) นำโดย นายนเรศ ชูผึ้ง เจ้าพนักงานประมงชำนาญงานชำนาญงาน ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล เดินทางไปตรวจสอบร้านดังกล่าว ซึ่งอยู่บริเวณทางเข้าโรงแรมดัง บน ถ.กะตะ ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต โดยได้พบกับนายณรงค์ชัย ธนทวีสกุล เจ้าของร้านและนาย ธีรศักดิ์ จำปาทอง ผู้จัดการร้านจึงได้แจ้ง ความผิดตามประกาศจังหวัดของสัตว์ทะเลหายากชนิดต่างๆ ตาม ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องกำหนดเขตพื้นที่มาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ.2553 และพ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พร้อมขอให้เซ็นลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมืองดจำหน่ายเพื่อช่วยอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายาก

โดยในวันนี้ที่แผงหน้าร้านพบว่ามีเพียงปลาสดและอาหารทะเลทั่วไปไม่มีการจำหน่ายปลาฉลามหัวบาตร และฉลามเสือดาวตามที่ปรากฏในโซเชียล

ซึ่งนายณรงค์ชัย ธนทวีสกุล เจ้าของร้านยอมรับว่าเป็นภาพดังกล่าวถูกถ่ายจากภายในร้านเพียง1ภาพคือภาพฉลามเสือดาว เเต่ภาพฉลามหัวบาตรไม่ใช่ที่ร้าน โดยเป็นภาพที่ถ่ายนานแล้วประมาณ1 -2ปีพร้อมให้ความร่วมมือจะไม่จำหน่ายปลาหายากอีก

ทั้งนี้นายณรงค์ชัย กล่าวอีกว่าปลาฉลามเสือดาวตัวดังกล่าวทางร้านได้ประมูลมาจากท่าเทียบเรือองค์การสะพานปลาภูเก็ต โดยไม่ทราบว่ามีความผิดตามกฏหมาย เนื่องจากพบว่ามีการขายกันตามแพปลาต่างๆเป็นปกติ พร้อมฝากขอโทษไปยังพี่น้องชาวภูเก็ต คนไทย และโซเชียลมีเดียต่างๆที่นำเสนอ จากนี้ทราบแล้วว่ามีปลาหลายชนิดที่ไม่สามารถนำมาจำหน่ายได้ก็พร้อมจะช่วยประชาสัมพันธ์

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเพิ่มเติมยังร้านอาหารทะเลใกล้เคียงกับร้านดังกล่าวพบว่ามีอีกหนึ่งร้านที่จำหน่ายปลาฉลามโรนินและปลานกแก้ว ซึ่งเป็นปลา ต้องห้ามตามประกาศประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องกำหนดเขตพื้นที่มาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ.2553 แต่มีขนาดใหญ่และยาวกว่าที่กำหนด จึงไม่มีความผิด เจ้าหน้าที่จึงทำได้เพียงพูดคุยขอความร่วมมือ

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image