นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้พบหารือกับนายปีเตอร์ ชยาโต้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการค้า ประเทศฮังการี ในโอกาสเยือนไทย ก่อนเดินทางเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศเอเชีย-ยุโรป(อาเซม) ณ กรุงเนปิดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ โดยเป็นการหารือถึงแนวทางการขยายความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทย-ฮังการี แม้ไทยและฮังการี จะมีความสัมพันธ์กันยาวนานกว่า 100 ปี แต่มูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศยังมีโอกาสจะขยายตัวได้อีกมาก จากปัจจุบันมูลค่าการค้าสองฝ่ายมี 587 ล้านเหรียญสหรัฐฯและในแผนงานกระทรวงพาณิชย์เตรียมนำคณะนักธุรกิจไทยเยือนฮังการีในเดือนมิถุนายน 2561 เพื่อจับคู่ธุรกิจและเจรจาลู่ทางการลงทุน ซึ่งนายปีเตอร์ ระบุว่าพร้อมให้การสนับสนุน และเห็นว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ
นางอภิรดี กล่าวว่า ในการหารือครั้งนี้ ฝ่ายฮังการี แสดงความสนใจนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกของไทย (อีอีซี ) ซึ่งได้เชิญชวน ให้รัฐมนตรีฮังการีนำนักธุรกิจมาเยี่ยมชมและร่วมลงทุนในอีอีซี ประกอบด้วย แผนการพัฒนาเมืองใหม่ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ครอบคลุมการขนส่งทางถนน ราง ท่าเรือ และท่าอากาศยาน ตลอดจนการเชื่อมโยงเศรษฐกิจจากภาคเหนือของไทยลงไปทางใต้ และจากภาคตะวันออกไปยังตะวันตก ซึ่งจะสามารถเชื่อมโยงกับโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (One Belt One Road: OBOR) ของจีน รวมทั้งเชื่อมโยงกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และอินเดียได้
นอกจากนี้ โครงการอีอีซี ยังส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่ฮังการีมีความเชี่ยวชาญ อาทิ การแพทย์ การบริหารจัดการน้ำเสีย และอุตสาหกรรมอาหารปลอดจีเอ็มโอ และปิโตรเคมี เป็นต้น ซึ่งทางรัฐมนตรีฮังการีแสดงความสนใจ พร้อมกับ ได้เชิญชวนให้นักธุรกิจฮังการีมาเยือนไทยและร่วมงานแสดงสินค้าอาหารระดับโลกในไทยหรืองานไทยเฟ้กซ์(THAIFEX 2018) จัดช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2561 และเยี่ยมชมพื้นที่อีอีซี
ทั้งนี้ ปี 2559 ฮังการีเป็นคู่ค้าอันดับที่ 50 ของไทยในโลก มีมูลค่าการค้ารวม 587.11 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้าและส่งออก 416.15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ รถยนต์ วงจรพิมพ์ ก๊อก ขณะที่ไทยนำเข้าจากฮังการีมูลค่า 170.96 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อาทิ เครื่องจักรไฟฟ้า เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม ส่วนการลงทุนของฮังการีในไทยมีไม่มากนัก ปี 2559 เพียง 1 โครงการ คือ บริษัทผลิตสายไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ มีมูลค่าลงทุน 8 แสนเหรียญสหรัฐ ส่วนไทยลงทุนในฮังการีมูลค่า 12.13 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป
อย่างไรก็ดี ฮังการีมีแผนจะเพิ่มการลงทุนในไทย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและพลังงาน ขณะที่ไทยมีแผนที่ขยายเส้นทางการบินตรงระหว่างไทยและฮังการี เพิ่มโอกาสทางธุรกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ รัฐมนตรีฮังการี แจ้งว่าฮังการีให้ความสำคัญกับนโยบายการค้าเสรี และเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ที่สนับสนุนให้ไทยและอียูสานต่อการเจรจาจัดทำเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ระหว่างกัน
