เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยกรณีศาลจังหวัดนครพนมอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีที่นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตข้าราชการครูชาว จ.สกลนคร ยื่นคำร้องขอให้รื้อฟื้นคดีขับรถยนต์ชนคนเสียชีวิต โดยศาลฎีกาได้ยกคำร้องว่า คดีดังกล่าวเนื่องจากนางจอมทรัพย์เดินทางมาขอความเป็นธรรมที่กระทรวงยุติธรรมในข้อหาขับรถชนคนตาย จากนั้นได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบพบพยานหลักฐานใหม่ คือ นายสับ วาปี และนายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง เพื่อนครูจอมทรัพย์ ก่อนสรุปสำนวนยื่นต่อศาลจังหวัดนครพนมขอรื้อฟื้นคดีใหม่ เพราะศาลเชื่อว่ามีผู้กระทำผิดตัวจริงมามอบตัว คือนายสับ และยังจ่ายเงินเยียวยาให้ญาติผู้เสียชีวิตด้วย เพราะไม่ได้ติดตามคดีนี้ตั้งแต่แรก
พ.ต.อ.ดุษฎีกล่าวต่อว่า ต่อมานางจอมทรัพย์เดินทางมาขอบคุณกระทรวงยุติธรรม จึงเข้ามารับปากว่าจะทำคดีดังกล่าวและได้ตรวจสอบเอกสาร พร้อมขอตัวเจ้าหน้าที่ทำงานในคดีทั้งหมด รวมถึงให้นายสับ นายสุริยา และนางจอมทรัพย์เข้าเครื่องจับเท็จ โดยพบว่านายสับและนายสุริยามีพิรุธ ส่วนนางจอมทรัพย์เครื่องไม่สามารถอ่านค่าได้ จากนั้นเกิดกระแสโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากระหว่างหน่วยงานเกี่ยวข้อง กระทรวงยุติธรรม กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จึงได้หารือกันและเชื่อว่าได้มีขบวนการรับผิดแทนกัน สร้างหลักฐานเท็จเกิดขึ้นมา อาจเกิดขึ้นจากพยานหลักฐานใหม่ แต่ต้องแยกออกกับคดีนางจอมทรัพย์ที่มาขอความเป็นธรรม แต่สุดท้ายทุกคนเคารพการตัดสินของศาล
พ.ต.อ.ดุษฎีกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามการยื่นหลักฐานใหม่นั้น เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมได้นำรถปิกอัพของนางจอมทรัพย์ไปตรวจสอบทางหลักวิทยาศาสตร์พบว่าไม่เคยเกิดอุบัติเหตุมาก่อน แต่ศาลไม่ได้รับพิจารณาเพราะคดีตัดสินไปแล้ว อย่างไรก็ตามกระทรวงยุติธรรมเป็นหน่วยงานเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงความยุติธรรม แต่หลังจากนี้การช่วยเหลือจะต้องพิจารณาตามหลักเกณฑ์
