หลังจากที่ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้เปิดเผยว่าในวงการฟุตบอลไทยได้มีการล็อกผลแข่ง และร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อจะแถลงข่าวเรื่องราวทั้งหมดในวันที่ 21 พฤศจิกายน ที่สตช. นั้น
พล.ต.อ.สมยศ เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้ร่วมมือกับสตช. มาเกือบหนึ่งปีเพื่อรวบรวมหลักฐาน จนค้นพบข้อมูลต่างๆ และทำให้แน่ชัดว่ามันมีอยู่จริง และเตรียมที่จะแถลงอย่างเป็นทางการร่วมกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในวันที่ 21 พฤศจิกายน
“ตอนนี้ได้มีการออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องแล้วจำนวน 12 คน ซึ่งมีทั้งผู้บริหารสมาคมฯ, ผู้ตัดสิน, ผู้บริหารสโมสร, นักกีฬา รวมไปถึงนายทุนต่างๆ ซึ่งมีหลักฐานในการดำเนินคดีทั้งหมด แต่ไม่ใช่ว่าได้ 12 คนนี้แล้วทุกอย่างจะจบแค่นี้ เพราะว่าจะมีการสืบสวนต่อ เพื่อขจัดปัญหาการล็อกผลการแข่งขันให้หมดลงไป ส่วนเรื่องของบทลงโทษนั้นก็จะเป็นไปตามพ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ.2556”
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าการเปิดโปงแง่มุมลบของฟุตบอลไทยเช่นนี้จะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของฟุตบอลไทยหรือไม่นั้น บิ๊กอ๊อด กล่าวว่า คิดว่าการเปิดโปงเช่นนี้จะไม่ส่งผลเสียมากนัก ถ้าหากมองว่าในอนาคตต่อไป สโมสรที่ลงทุนด้วยเม็ดเงินมหาศาล จะไม่ต้องเจอกับการล็อกผล ที่ทำให้เขาเสียเปรียบอีกต่อไป
ประมุขลูกหนังไทย กล่าวต่อว่า ทางสมาคมฯ ได้เตรียมที่จะออกกฎระเบียบ และบทลงโทษมาบังคับใช้สำหรับบุคลากรในวงการฟุตบอล เพื่อทำให้มีมาตรฐานยิ่งขึ้น และสามารถลงโทษผู้ที่กระทำผิดได้ทันที
“ในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมาก็มีทราบเรื่องราวการล็อกผลฟุตบอลมาพอสมควร ซึ่งมีหลายฝ่ายคัดค้านอยากปล่อยให้ทำเพื่อที่จะได้จับตัวผู้กระทำผิด แต่ส่วนตัวผมยอมไม่ได้ที่จะเห็นการล็อกผลฟุตบอลที่ทำให้ทีมที่เขาลงทุนมหาศาลต้องเสียเปรียบ จึงได้ทำการแก้ไขด้วยการเปลี่ยนตัวผู้ตัดสินกระทันหัน และก็ทำให้ผลการแข่งขันนั้นไม่เป็นไปตามที่ล็อกเอาไว้” บิ๊กอ๊อดกล่าวปิดท้าย
