เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคณะกรรมปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) ว่า เรื่องการปฏิรูปตำรวจอย่ามองแต่ว่าใครจะใหญ่ ใครจะแต่งตั้งใคร ให้ปฏิรูปแนวทางการอำนวยความยุติธรรมให้ผู้หญิงและเด็กที่ถูกละเมิดด้วย ซึ่งตนได้เข้าร่วมการสัมมนาเรื่อง “การเข้าถึงความยุติธรรมที่ต้นทาง:ยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง” ที่โรงแรมเซ็นจูรี่พาร์คในวันนี้ มีเนื้อหาสาระจากผู้ทรงคุณวุฒิและมากประสบการณ์ในการทำงานให้ความช่วยเหลือสตรีและเด็กจากการถูกกระทำความรุนแรง เป็นการนำเสนอทางออกและทวงถามความก้าวหน้าการปฏิรูปตำรวจ ในเรื่องการอำนวยความยุติธรรมให้แก่สตรีและเด็กในคดีการล่วงละเมิดทางเพศ มีข้อมูลน่าสนใจว่า ผู้เสียหายไม่ได้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรม เช่นปี 2556 มีผู้หญิงและเด็กเข้าขอรับการช่วยเหลือจากศูนย์ช่วยเหลือทางสังคม 31,866 คน เฉลี่ย 87 คนต่อวัน แต่กลับมีการแจ้งความเพียง 3,273 คดี เหตุผลหลักคือไม่กล้า กลัวเสียชื่อ กลัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ การปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวนทำเหมือนผู้เสียหายเป็นผู้ต้องหาเสียเองและยังมีปัญหาอีกมากที่มีการสะท้อนขึ้นมา เช่น ไม่รับแจ้งความ ทำคดีล่าช้า ทำสำนวนหาย ผู้มีอิทธิพลเข้าแทรกแซงคดี มีการเรียกเงิน ทำให้การร้องทุกข์กล่าวโทษเป็นไปอย่างลำบาก และผู้เสียหายเลือกที่จะไม่แจ้งความในที่สุด
โดยเวทีสัมมนาเสนอให้สร้างบุคลากรตำรวจให้มีทัศนคติ ความรู้ที่ถูกต้องต่อการปฏิบัติที่ถูกต้อง อาทิ การพูดจา แสดงออกต้องไม่ตอกย้ำซ้ำเติม เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้เสียหายทั้งในวาระการปฏิรูปนี้ ควรทำให้เกิดเป็นรูปธรรมตั้งแต่การปฏิรูปหลักสูตรนักเรียนนายร้อยและชั้นประทวนให้เข้าใจหลักสิทธิมนุษยชน มีกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และให้เพิ่มจำนวนพนักงานสอบสวนหญิงซึ่งปัจจุบันมีเพียงแค่ 400 คน จาก 1,500 สถานีตำรวจ ถึงเวลาที่ต้องตั้งเป้าหมายจริงจังและทำได้จริง จึงขอฝากข้อเสนอนี้ต่อคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ชุด พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รับทราบและเร่งกำชับให้ปฏิรูปตำรวจได้จริงทั้งระบบ
