บิ๊กตู่ ยันประยุทธ์5 ทหารออกมากกว่าเข้า ท้าคนพูดเก่ง ถามเคยทำอะไรได้แบบตนบ้าง

“บิ๊กตู่”เผยปรับ ครม.ประยุทธ์ 5 สัดส่วนทหารออกมากกว่าเข้า ย้ำยังอยู่ในขั้นตอนการทูลเกล้าฯ ลั่นพร้อมรับผิดชอบด้วยชีวิตมาตั้งแต่ 22 พ.ค. 57 ระบุ กม.ท้องถิ่นยังไม่เสร็จ พร้อมเมื่อไหร่ค่อยเลือก

เมื่อเวลา 16.15 น. วันที่ 20 พฤศจิกายน ที่วิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้า การนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯว่า “ยัง กำลังๆ เรียบร้อยทั้งหมดแล้ว กำลังทำ” เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่า ครม.ประยุทธ์ 5 โฉมใหม่จะเรียกความเชื่อมั่นประชาชนได้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่า ตั้งใครไปก็อาจจะมีคนที่พอใจและไม่พอใจ แต่สิ่งที่ทำ คิดว่าทุกคนต้องการ แต่เอาเป็นว่า ต่อจากนี้ไป ตนจะปราบทุจริตให้มากที่สุด เจ้าหน้าที่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง วางพื้นฐานประเทศให้ได้ อะไรที่เริ่มต้นได้ก็ต้องเริ่มต้น และตนจะมอบนโยบายให้ไปสร้างการรับรู้ใหม่ในเรื่องของกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปัญหาราคายาง ข้าว และจะให้เปรียบเทียบดูว่า ที่ผ่านมา ที่ออกมาพูดกันเก่งๆ ได้ทำอะไรแบบตนกันบ้าง แล้วที่ทำเกิดความเสียหายหรือเปล่า ความจริงไม่อยากจะไปกล่าวอ้างกับใคร แต่เมื่อยังมีการโจมตีอยู่เช่นนี้ก็ต้องให้ข้อเท็จจริงออกไป สื่อก็ต้องไปวิเคราะห์กันเอาเอง

เมื่อถามว่าการปรับ ครม.ครั้งนี้สัดส่วนของทหารลดลงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ไม่รู้เหมือนกัน ผมไม่เคยคิดถึงสัดส่วน ไม่มีเข้าหรอกมีเพียงนิดหน่อย ออกมากกว่าเข้าทำไมรังเกียจทหารนักหรืออย่างไร” เมื่อผู้สื่อข่าวบอกว่าไม่ได้รังเกียจรักทหารจะตาย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอย่างไม่เชื่อว่า “ปัดโถ่ รักแต่ต้องจะตาย รักไม่ต้องตายสิเอาเป็นว่าทำดีที่สุดนะมันไม่มีอะไรที่ 100 เปอร์เซ็นต์หรอก มันไม่มีอะไรถูกใจคน 100 เปอร์เซ็นต์ อาจจะมีคนชอบคนไม่ชอบ ดีไม่ดี แต่ผมเห็นคนในสังคมบอกว่า ในเมื่อนายกฯเป็นคนรับผิดชอบปรับเอง นายกฯต้องเป็นคนรับผิดชอบ ถ้าไม่ดีไม่ว่าใครจะเป็นรัฐมนตรีผมก็สั่งของผมแบบนี้” เมื่อถามย้ำว่า แล้วปรับ ครม.ครั้งนี้ นายกฯพร้อมรับผิดชอบใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ” ผมรับผิดชอบตั้งแต่ 22 พ.ค. 57 แล้ว ไม่ใช่พึ่งมารับผิดชอบแค่ ครม. ตั้งแต่ 22 พ.ค. 57 ชีวิตของผม ไม่พอหรือ”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงการเลือกตั้งท้องถิ่นว่า ขณะนี้กำลังคิดอยู่ คิดอยู่ตลอดเวลา ซึ่งต้องดูความพร้อมดูกฏหมาย ขณะนี้กฎหมายที่เกี่ยวข้องยังทำอยู่ กฎหมายท้องถิ่นยังไม่เสร็จ ซึ่งเมื่อพร้อมเมื่อไหร่ก็คงเลือก “ผมขอไม่อ้างเรื่องความสงบเรียบร้อย เพราะถ้าอ้างไปเดี๋ยวก็โดนอีก ต้องถามว่า ประชาชนพร้อมหรือยัง ว่าอย่างไรก็ว่ามา”

Advertisement

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการสยบข่าวลือความขัดแย้งกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า เรื่องนี้พูดกันมานานแล้ว ตนก็ได้ประกาศให้มันชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นรองนายกฯหรือรัฐมนตรี ไปหามา ไม่จริงหรอก เมื่อถามว่า ข่าวลือที่เกิดขึ้นเป็นการดิสเครดิตหรือมาจากเรื่องอะไร นายกรัฐมนตรีกล่าวยอมรับว่า มันก็มีขบวนการดิสเครดิตส่วนหนึ่ง แต่ก็ต้องไปดูว่าเรื่องการดิสเครดิตจริงหรือไม่จริง แยกแยะกันให้ออกนะ แล้วเรื่องการดำเนินงานโครงการต่างๆ กว่าจะผ่านมาถึงนายกรัฐมนตรีต้องดูว่าผ่านอะไรมาบ้าง มีเป็นหลายล้านโครงการ ซึ่งก็ไม่ได้โทษทั้งหมดแต่ก็ต้องไปดูว่า มีความสุจริตและเป็นธรรมหรือไม่ วันนี้ก็มีการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาทั้งหมดแล้ว ทั้งหมดอยู่ที่คนบังคับใช้กฎหมาย สังคมต้องเรียนรู้ว่าจะช่วยกันใช้กฎหมายอย่างไร ไม่ใช่ให้รัฐไปบังคับใช้อย่างเดียว ไม่เช่นนั้นจะเกิดความขัดแย้ง ทุกอย่างไปกันไม่ได้ทั้งหมด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image