พม.ชงคกก.ผู้สูงอายุแห่งชาติ มอบ ‘เหรียญพระคลัง’ ผู้บริจาคเบี้ยสูงอายุเกิน 1 ปี

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 20 พฤศจิกายน ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมแนวทางการดำเนินมาตรการให้เงินช่วยเหลือเพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย โดยมีผู้บริหารพม. ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 เห็นชอบโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ สำหรับเป็นเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุผู้มีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการ แห่งรัฐจำนวน 3.6 ล้านคน เพื่อให้ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นนั้น

รมว.พม.กล่าวอีกว่า เงินบริจาคดังกล่าวจะมาจาก 2 ทาง ได้แก่ 1.จากเงินร้อยละ 2 ของภาษีสรรพสามิตในส่วนของสินค้าสุราและยาสูบ ไม่เกิน 4,000 ล้านบาทต่อปี และ2.เงินบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นผู้สูงอายุที่มีสิทธิได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและประสงค์ที่จะบริจาคเบี้ยยังชีพของตนให้กับผู้สูงอายุผู้มีรายได้น้อย และการรับเงินบริจาคจะมีผลในเดือนถัดไปจากเดือนที่แจ้งความประสงค์ ไปจนกว่าจะแจ้งยกเลิกการบริจาคกับหน่วยงานรับแจ้งตามภูมิลำเนา เบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้บริจาคประมาณ 500,000 คน โดยผู้สูงอายุที่จะบริจาคสามารถแจ้งความประสงค์ ได้ที่หน่วยงานต่างๆ อาทิ สำนักงานเขต กทม.ทั้ง 50 แห่ง เทศบาล/อบต.ที่ลงทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 1  ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เสนอหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขในการจัดสรรเงินช่วยเหลือ เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย โดยได้เสนอให้ผู้ที่บริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 1 ปีขึ้นไป จะมีสิทธิ์ได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติผู้บริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ(เหรียญพระคลัง) ทั้งนี้ จะมีการนำข้อเสนอดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติในวันที่ 22 พฤศจิกายน นี้ เพื่อพิจารณาแนวทางการดำเนินงานต่อไป

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image