นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังกับการหารือกับนายจัสติน วู้ด หัวหน้าฝ่ายเอเชีย แปซิฟิก ของ World Economic Forum (WEF) ณ โรงแรมอนันตราสยาม ว่า การหารือดังกล่าวถือเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างผู้บริหารWEF ในระหว่างที่เดินทางมาเยือนประเทศไทย ทางรัฐบาลได้ชักชวนให้ทางWEF มาจัดงานสัมมนาพิเศษขึ้นในประเทศไทย โดยเปิดเป็นเวทีสัมมนาที่มีหัวข้อสำหรับคนรุ่นใหม่ ทั้งในและต่างชาติ ไม่ใช่แค่บริษัทใหญ่ๆ ภายใต้สังคมแห่งนวัตกรรม สังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งถือว่าสอดคล้องกับแนวคิดของWEF ที่กำลังอยู่ในปรับปรุงวิธีวัดดัชนีใหม่ให้มีความทันสมัยมากขึ้น โดยรวมเอาเรื่องวิจัย นวัตกรรม คน และการศึกษาเข้ามาอยู่ด้วย ซึ่งประเทศไทยต้องเตรียมรับมือเรื่องนี้ตั้งแต่เนิ่นๆเพื่อให้จัดลำดับที่ดีที่สุด
“ผมไม่ตั้งเป้าหมายไว้หรอกว่า ต้องได้อันดับที่เท่าใด แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุด อย่างการจัดอันดับความง่ายในการทำธุรกิจของธนาคารโลก ไทยขยับขึ้นมา 20 อันดับ ถือเป็นสิ่งที่ดี รวมทั้งดัชนีการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชน ก็ขยับขึ้นมาที่อันดับ 12 ยิ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก”นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด กล่าวว่า ส่วนการที่เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/2560 ขยายตัว 4.3% ถือเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยเดินมาไกลมาจากช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเศรษฐกิจไทยขยายตัวเพียง 0.8% และค่อยๆขยับขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึง 3% และ 4% ถ้าในไตรมาส 4/2560 เศรษฐกิจไทยยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่องอีก จะยิ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจได้มากขึ้น ทั้งอัตราการจ้างงาน การลงทุน ต่อเนื่อง เป็นโมเมนตัมจนถึงปีหน้า และต่อเนื่องไปยังเศรษฐกิจฐานราก ให้มีกำลังซื้อ การจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น
