เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่ศาล มทบ.23 ค่ายศรีพัชรินทร์ นายจตุภัทร บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ได้ถูกเบิกตัวจากทัณฑสถานบำบัดพิเศษจังหวัดขอนแก่น เพื่อไต่สวนพยานโจทก์คดีดำที่ 61/2559 คดีขัดคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 จัดกิจกรรมแสดงสัญลักษณ์คัดค้านการรัฐประหาร ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ใกล้ศาลหลักเมืองขอนแก่น โดยชูป้ายข้อความ คัดค้านรัฐประหาร เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2558 ซึ่งเป็นการสืบพยานโจทก์ปากเดียวคือนายราชา ถิ่นทิพย์ ช่างภาพไทยพีบีเอส
ซึ่งวันนี้มีนายวิบูลย์ และนางพริ้ม บุญภัทรรักษา พ่อและแม่ของไผ่ ดาวดิน พร้อมเพื่อนและชาวบ้านจาก อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร มาให้กำลังใจจนกระทั่งมีการสืบพยานเสร็จ ไผ่ได้ถูกคุมตัวกลับไปยังทัณฑสถานบำบัดจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเมื่อไผ่ถูกคุมตัวเดินมาเพื่อขึ้นรถของทัณฑสถานบำบัดจังหวัดขอนแก่น แม่ที่มารอพบได้โผเข้ากอดไผ่ทันที ซึ่งไผ่ก็ยังมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มกอดแม่และทักทายผู้ที่มาให้กำลังใจตลอดเวลา จนกระทั่งขึ้นรถกลับไปยังทัณฑสถานบำบัดจังหวัดขอนแก่น
นายอานนท์ นำภา ทนายความเปิดเผยว่า โดยรวมแล้วไผ่มีกำลังใจและสุขภาพแข็งแรงดี ซึ่งวันนี้นัดสืบพยานโจทก์เป็นช่างภาพของไทยพีบีเอส ที่อยู่ในเหตุการณ์ เหลือพยานโจทก์อีก 2 ปาก เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นผู้จับกุมและพนักงานสอบสวน โดยจะสืบต่อในวันที่ 22 มกราคม 2561
นายอานนท์ยังระบุอีกว่า ในส่วนที่ทนายขอศาลให้ปล่อยตัวไผ่เนื่องจากไผ่ถูกขังระหว่างพิจารณามาเกินกว่าโทษตามกฎหมาย ตามคำสั่งที่ศาลโทษสูงสุดแค่ 6 เดือน ซึ่งไผ่ก็ถูกขังมาเกิน 6 เดือนแล้ว ศาลมีคำสั่งไม่ปล่อยตัวเพราะเห็นว่าไผ่ถูกขังซ้อนกับคดี 112 ที่ศาลจังหวัดขอนแก่น เมื่อเป็นการขังซ้อนกันอยู่ ศาลจึงมองว่าไม่เป็นการขังในคดีนี้ ก็เลยยังไม่สั่งปล่อยตัว ส่วนเรื่องการหักวันคุมขังศาลบอกว่าจะไปสั่งในคำพิพากษา แต่ว่าที่ศาลชี้แจงในบัลลังก์ในห้องพิจารณาอาจจะไม่หัก เพราะเห็นว่าเป็นคดีที่ซ้อนกับคดี 112 ซึ่งทนายความก็คงจะต้องเตรียมข้อกฎหมายโต้แย้งกันต่อไป เพราะเมื่อจำเลยถูกขังระหว่างพิจารณาต้องถูกหักวันคุมขังออก ถ้าหากมีการตัดสินโทษจะเกินโทษที่กำหนด และเมื่อมีการสอบปากหรือสืบพยานโจทก์เสร็จในเดือนมกราคม หลังจากนั้นไผ่ก็จะถูกเบิกตัวไปที่ภูเขียวในคดีประชามติ ซึ่งจะเริ่มวันที่ 13 ก.พ.2561 ส่วนการสืบพยานจำเลยคดีนี้น่าจะเริ่มเดือนมีนาคม 2561 เป็นต้นไป
