เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน เวลา 01.00 น. ที่ตู้สายตรวจตำบลสวนแตง สภ.เมืองสุพรรณบุรี ด.ต.ชาตรี พลายสา ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีโจรมาขโมยของในบ้าน พร้อมกับใช้อุปกรณ์ตัดเหล็กตรงบานหน้าต่าง ในบ้านหลังหนึ่งที่พื้นที่ต.สวนแตง และ ต.ศาลาขาว จึงได้นำกำลังรุดเข้าไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ต.ตะวัน วัฒนรังสรรค์ สวป.สภ.เมืองสุพรรณบุรี พบว่าที่บ้านเลขที่ 99/1 หมู่ 1 ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ได้ถูกโจรขโมยแบตเตอรี่รถเกี่ยวข้าวไป ส่วนอีกบ้านใกล้เคียงกัน ก็ถูกขโมยเครื่องซักผ้า ตะกร้าพลาสติก ก๊อกน้ำ แบตเตอรี่รถสิบล้อ 3 ลูก หม้อแปลงไฟฟ้า กว่า 5 หลังคาเรือน ชาวบ้านจึงทนไม่ไหว เพราะช่วงนี้ของหายเป็นประจำ จึงได้รีบแจ้งตำรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี ตำรวจจึงได้เร่งติดตามตัวโจรรายนี้ โดยตรวจสอบจากวงจรปิด กล้อง CCTV ตามจุดต่างๆ ที่คาดว่า คนร้ายจะหลบหนี โดยไปพบระหว่างทาง ที่ผู้ต้องหากำลังขับรถซาเล้งขนสิ่งของดังกล่าว กำลังจะไปบ้าน จนท.ตำรวจ จึงได้นำของกลางทั้งหมดยึดตรวจสอบ พบว่ามีถังพลาสติกสีดำ อะลูมิเนียมหน้าต่าง ก๊อกน้ำ ตะกร้าพลาสติก หม้อแปลงไฟ แบตเตอรี่รถสิบล้อ 3 ลูก ปะแจอุปกรณ์งัดบ้าน ไฟฉาย
จากการสอบสวนผู้ต้องหา ทราบชื่อต่อมาคือ นายนิมิตร หงษ์เวียงจันทร์ อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 296 หมู่ 10 ต.พลับพลาไชย อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ได้มีพฤติกรรม ขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ทะเบียน กษก 441 สพ. ตระเวนก่อเหตุขโมยของชาวบ้านไปทั่วในพื้นที่ อ.เมืองและ อ.อู่ทอง โดยเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า ตนเองนั้น จะใช้อุปกรณ์เข้าไปงัดบ้าน หน้าต่าง และเข้าไปขโมยของ ที่เป็นประเภทเครื่องใช้ภายในบ้าน ทั้งเครื่องซักผ้า ก๊อกน้ำ ตะกร้าถังพลาสติก สายไฟ แบตเตอรี่รถ หม้อแปลงไฟ และอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านที่จะสามารถเอาไปขายกับร้านรับซื้อของเก่าได้ ก็จะหยิบติดมือมาด้วยทุกครั้ง แม้กระทั่งมีดปอกผลไม้ แล้วเอาไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่า เอาเงินมาใช้สอย ซึ่งตนไม่มีงานทำ ก็จะเอาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว ซึ่งนายนิมิตรบอกมีหนี้สินเยอะ จึงต้องทำแบบนี้ ที่ผ่านมาก็ตระเวนไปทั่วในหลายพื้นที่
ด้าน ด.ต.ชาตรี พลายสา ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.เมืองสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ผู้ต้องหามักจะตระเวนขโมยของ ตามพื้นที่ในอ.เมือง และ อ.อู่ทอง โดยจะลงมือในช่วงกลางคืนที่คนในบ้านนอนหลับ โดย มีประวัติโชกโชน ขโมยของนับ 100 ครั้ง ในหลายพื้นที่ และเพิ่งพ้นคดีลักทรัพย์ประมาณ 9 เดือน แต่ก็ไม่เข็ดหันมาก่อเหตุอีก น่าจะเป็นนิสัยที่ชอบลักขโมยเป็นประจำ เพราะไม่ยอมทำงาน จนชาวบ้านระอาเพราะ เดือดร้อนหนัก ข้าวของเครื่องใช้สูญหายบ่อยครั้ง ตำรวจจึงได้เร่งติดตาม จนสามารถสืบทราบจับกุมได้ในที่สุด และนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
