นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น เปิดเผยว่า การจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หรืองานเคาท์ดาวน์ 2561 นี้ จะมีรูปแบบแตกต่างจากปีที่ผ่านมา โดยใช้เงินลงทุน 400 ล้านบาท มากกว่าปีที่แล้ว ที่ใช้เม็ดเงินลงทุนประมาณ 300 ล้านบาท โดยปีนี้จะจำลองตลาดคริสต์มาส เมืองสทราซบูร์ ประเทศฝรั่งเศส โดยคาดว่าบริเวณลานศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2560 จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ หมุนเวียนประมาณ 1.5-2 แสนคน เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่จัดงานปีใหม่ในรูปแบบการถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุยเดช บรมนาถบพิตร โดยมีนักท่องเที่ยวมาร่วมไว้อาลัยประมาณ 1 แสนคน นอกจากนี้แล้ว สิ้นปี 2560 บริษัทจะเพิ่มสาขาที่จัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ รวมทั้งหมด 11 แห่ง จากปีที่แล้วที่มีจัดงานฯ 8 แห่ง อาทิ เซ็นทรัลเวิลด์ เชียงใหม่ ขอนแก่น หาดใหญ่ อุดรธานี มหาชัย
นายณัฐกิตติ์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จัดงานเปิดไฟต้นคริสต์มาสในธีม LIGHT UP CHRISTMAS TREE CELEBRATION เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นความสุขในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยความพิเศษของปีนี้คือต้นคริสต์มาสที่บริเวณลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นต้นคริสต์มาสต์ที่สูงสุดในอาเซียน นอกจากนี้แล้วยังประดับตกแต่งพื้นที่อื่นๆ ภายในศูนย์การค้า ซึ่งออกแบบโดยฮาวิเย่ กอนซาเลซ บูรโกส ศิลปินชื่อดังระดับโลกชาวอาร์เจนตินา
“ภาพการจัดงานเทศกาลปีใหม่ของปีนี้จะแตกต่างจากปีที่ผ่านมา จากบรรยากาศและความรู้สึกโดยรวมของผู้บริโภค ทั้งจากปัจจจัยนักท่องเที่ยวที่ยังมองว่าไทยเป็นเดสทิเนชั่นที่สำคัญ โรงแรมและยอดการใช้บริการสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์) ไปยังหัวเมืองสำคัญๆ เช่น เชียงใหม่ ก็น่าจะเต็ม รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยมาตรการช้อปช่วยชาติระหว่างวันที่ 11 พฤศจิกายน – 3 ธันวาคม 2560 เป็นระยะเวลาที่ดีที่จะกระตุ้นให้การจับจ่ายใช้สอย โดยในเดือนธันวาคมนี้คาดว่าจะเห็นตัวเลขชัดเจนขึ้น เนื่องจากเป็นเดือนไฮซีซั่น ช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยคาดว่าผลจากมาตรการนี้จะช่วยกระตุ้นยอดขายในช่วงปีใหม่เพิ่มขึ้น 20-30% ประกอบกับการออกแคมเปญและการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง จะช่วยให้เงินสะพัดประมาณ 12,000 ล้านบาท” นายณัฐกิตติ์กล่าว
