สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า สเปนและโปรตุเกสต้องเผชิญกับปัญหาความแห้งแล้งระดับหายนะที่ทำให้แม่น้ำหลายสายเกือบแห้งเหือดในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เกิดไฟป่าระดับรุนแรงสุดขีดและพืชผลเสียหายเป็นวงกว้าง
ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนด้วยว่าสภาพอากาศแห้งแล้งยาวนานจะเกิดบ่อยครั้งขึ้นในอนาคต โดยพื้นที่เกือบทั้งหมดของโปรตุเกสประสบปัญหาแห้งแล้งสุดขีดในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่ปี 2548 ขณะที่พื้นที่ส่วนใหญ่ของสเปนมีฝนตกน้อยลงกว่าปกติ
สำนักงานรับประกันผลผลิตทางการเกษตร “อโกรเซกูโร” ระบุว่า พื้นที่ราว 1.38 ล้านเฮกตาร์ (8.625 ล้านไร่) ที่ใช้ปลูกธัญพืช ดอกทานตะวันและต้นมะกอกได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศแห้งแล้งหรือเยือกแข็ง คิดเป็นค่าเสียหายมากกว่า 200 ล้านยูโร (ราว 7,700 ล้านบาท) แล้วในปีนี้
นอกจากนี้ ระดับน้ำในแหล่งกักเก็บน้ำหลายแห่งอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ โดยในแหล่งกักเก็บน้ำสำรอง 28 แห่งในโปรตุเกสในเดือนตุลาคม อยู่ที่น้อยกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของความจุ
ขณะที่ในสเปน แหล่งกักเก็บน้ำสำรองตลอดแนวริมฝั่งแม่น้ำเทกัสมีน้ำอยู่ที่น้อยกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของความจุเช่นเดียวกัน นับจนถึงเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ระดับน้ำยิ่งต่ำกว่านั้นในแม่น้ำโดรูทางตอนเหนือ และแม่น้ำเซกูราที่ใช้ในการทดน้ำเพื่อการชลประทานทางตะวันออกเฉียงใต้
