สาวดิ่งตึกต่อหน้าน้อง เผยป่วยซึมเศร้า บ่นอยากไปอยู่กับแฟนฝรั่งที่เสียชีวิต

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 21 พฤศจิกายน ร.ต.อ.ศุภชัย ศรีแก้ว รองสว. (สอบสวน) สน.คลองตัน รับแจ้งเหตุมีผู้พลัดตกจากที่สูงเสียชีวิต บริเวณอาคารชุดรีเจ้นท์พัฒนาการ อาคารชุดที่ 2 ตึกเอ เลขที่ 93/1-245 ซอยอ่อนนุช 17 แยก 18 แขวงและเขตสวนหลวง รุดไปที่เกิดเหตุเป็นอาคารชุดความสูง 9 ชั้น เจ้าหน้าที่ตรวจสอบชั้นล่างด้านหลังอาคารพบศพ น.ส.พรสวรรค์ พันพนม อายุ 41 ปี พนักงานร้านเสริมสวยย่านนานา สภาพศีรษะแตก แขนขวาหักผิดรูป นอนตะแคงขวาจมกองเลือด ลำตัวพาดอยู่กับราวตากผ้า สวมชุดนอนแบบกระโปรงสีม่วง ไม่สวมรองเท้า ตรวจสอบโดยรอบพบหลังคากันสาดชั้น 7 และ 8 มีร่องรอยการตกกระแทกจนพัง จากนั้นได้เข้าตรวจสอบภายในห้อง 98/238-239 เป็นห้องพักผู้เสียชีวิต ไม่พบร่องรอยรื้อค้นหรือร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงเก็บหลักฐานเอกสารและส่งศพชันสูตรต่อที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ รพ.จุฬาลงกรณ์

สอบสวน น.ส.วราลี พันพนม อายุ 41 ปี น้องสาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนกับผู้เสียชีวิตไปเที่ยวที่ซอยนานาถึงเวลาประมาณ 04.00 น. ก่อนเดินทางกลับมายังห้องพักที่เกิดเหตุกัน 2 คน ต่อมาช่วงเช้า ตนตื่นมาจะทำกับข้าวพบว่าผู้เสียชีวิตยังนอนอยู่จึงได้ปลุกและพูดคุยกันว่าต้องทำงานเวลา 11.00 น. จากนั้นตนเห็นผู้เสียชีวิตเดินไปหยิบขวดเหล้าขาวบนโต๊ะมาดื่ม ก่อนจะเดินไปที่ริมระเบียงของห้องพัก ขณะนั้นตนกำลังถูทำความสะอาดห้องอยู่ จึงถามผู้เสียชีวิตว่าไปนั่งทำอะไรตรงนั้น ทางผู้เสียชีวิตได้พูดคุยกับตนว่าไปนั่งชมวิวและพูดคุยกับแฟนต่างชาติที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ จากนั้นผู้เสียชีวิตได้อาศัยจังหวะที่ตนเผลอกระโดดระเบียงลงไปดังกล่าว ห้องดังกล่าวนี้ผู้เสียชีวิตจะพักอาศัยอยู่กับแฟนหนุ่มชาวอังกฤษด้วยกัน 2 คน และมีลูกชายด้วยกัน 1 คน อายุ 21 ปี ก่อนที่แฟนหนุ่มจะเสียชีวิตได้ประมาณ 6 เดือน ตนเห็นผู้เสียชีวิตมักจะพูดคุยกับแฟนหนุ่มที่จากไปอยู่เพียงคนเดียว และบ่นมาตลอดว่าไม่อยากอยู่แล้ว อยากจะไปอยู่กับแฟน ประกอบกับมีโรคซึมเศร้าและโรคเครียดมาโดยตลอด จึงมาเกิดเหตุครั้งนี้ขึ้น

ร.ต.อ.ศุภชัยเปิดเผยว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้เสียชีวิตกระโดดลงมาเสียชีวิตเอง หลังจากนี้จะสอบปากคำพยานแวดล้อมที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อสรุปสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image