หากรู้สึกว่าร่างกายไม่ฟิตไม่เป๊ะปังเหมือนวัยหนุ่มสาว พญ.กอบกุลยา จึงประเสริฐศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย โรงพยาบาลพญาไท 2 มีวิธีดูแลสุขภาพให้กลับมาสุขภาพดี พร้อมแนะเทคนิคเติมวิตามินกาย-ใจ
พญ.กอบกุลยากล่าวว่า ตั้งแต่อายุ 30 ปีขึ้นไป ความสมดุลของฮอร์โมนจะเริ่มเปลี่ยนแปลง ทำให้ระดับพลังงานลดลงการเผาผลาญในร่างกายก็จะไม่มีประสิทธิภาพ หลายคนยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไหร่ สภาวะร่างกายก็ยิ่งเสื่อมโทรมและถดถอยลง โดยสัญญาณความร่วงโรย ได้แก่
1.กระดูกและข้อเสื่อม เมื่อก่อนออกกำลังกาย ทำกิจกรรมหนักเบาแค่ไหนก็ไม่ยี่หระ แต่พอเวลาผ่านไป เริ่มมีอาการปวด มีเสียงกระดูกลั่น
2.มองอะไรก็ไม่ชัด สมัยสาวๆ สายตาจะเป็นปกติ แต่เมื่อมีการใช้สายตามาตลอด พอถึงวัยผู้ใหญ่บางรายสายตาจะสั้น บางรายสายตาจะยาว
3.ผมร่วง ขาดง่าย นอนตื่นมา อาบน้ำ หรือใช้ชีวิตประจำวันผมหลุดร่วงง่ายกว่า ตอนอายุยังน้อย นี่คือสัญญาณว่าคุณเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เต็มตัว
4.ผิวเหี่ยวย่น มีริ้วรอยไม่พึงประสงค์ปรากฏอยู่ทั้งบริเวณใบหน้าและร่างกาย สัมผัสผิวแล้วไม่นุ่ม ชุ่มชื้น และเปล่งปลั่งดังเดิม
5.ไม่อึด ถึก ทนทาน เมื่อก่อนสภาพร่างกายสามารถทนทรหดต่อกิจกรรมต่างๆ ได้นานและถี่แม้พักผ่อนน้อย แต่ความเหนื่อยล้า อ่อนแรง เพลีย ง่วงหงาวหาวนอน เกิดขึ้นบ่อยกว่าเดิม
6.โกรธ โมโห เหวี่ยง อดทนต่อสิ่งแวดล้อม และผู้คนน้อยลง รู้สึกว่าทุกสิ่งอย่างมักไม่ได้ดังใจ และอารมณ์ร้อนอ่อนไหวเป็นที่สุด
พญ.กอบกุลยาแนะเติมวิตามินกาย-ใจว่า 1.ออกกำลังกาย เรียกคืนระบบการเผาผลาญ 2.จัดระเบียบอาหารการกิน ลดกินหวาน มัน เค็ม 3.ฝึกหายใจ เข้าออก นั่งสมาธิ เราควรใช้ชีวิตในทุกๆ วัน ด้วยความไม่ประมาท ไม่โกรธ หรือโมโห กับทุกๆ เรื่อง และควรปล่อยวางเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจ ให้จิตใจได้วิตามินฟื้นพลัง 4.นอนให้เพียงพอ โดยทั่วไปควรหลับอย่างน้อย 6-8 ชม. 5.ปรึกษาแพทย์ ในปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ช่วยให้เราทราบข้อมูล ว่าร่างกายเรายังต้องการวิตามินตัวใด ด้วยโปรแกรมการตรวจระดับสมดุลของสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ
สิ่งสำคัญที่สุด คือ อย่าละเลยที่จะดูแลตัวเอง