ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
---|
ทั้งๆ ที่มีความพยายามตัดไฟแต่ต้นลมจากจังหวัดตรังไปยังจังหวัดพัทลุงด้วยมาตรการ “ตัดไม้ข่มนาม” ต่อเกษตรกรชาวสวนยาง
แต่ก็ยังเกิดปรากฏการณ์ขึ้นอีกที่จังหวัดชุมพร
แสดงว่าพลานุภาพแห่ง “ค่ายรัษฎานุประดิษฐ์” ก็ดี พลานุภาพแห่ง “ค่ายอภัยบริรักษ์” ไม่เป็นผล จึงจำเป็นต้องเปิดค่าย “ชุมพรเขตอุดมศักดิ์” ขึ้น
“ปรากฏการณ์” เช่นนี้ “สะท้อน” อะไร
1 เท่ากับชี้ว่าการเชิญเข้าค่ายทหาร “ปรับทัศนคติ” อาจได้ผลใน “กทม.” ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
แต่ไม่แน่ว่าจะได้ผลใน “ภาคใต้”
ขณะเดียวกัน 1 เท่ากับชี้ให้เห็นว่า มาตรการเดียวกันอาจได้ผลใน กทม. ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ในภาคใต้อาจไม่เวิร์ก
นี่คือปมเงื่อนที่ต้องขบคิด พิจารณา
หากฟังจากบทสรุปของนักการเมืองในพื้นที่ ไม่ว่าจะมาจากตรัง ไม่ว่าจะมาจากพัทลุง ไม่ว่าจะมาจากสงขลา เห็นตรงกัน
ที่ “ทหาร” กำลังทำเป็นมาตรการ “การเมือง”
แต่ที่เกษตรกรชาวสวนยางประสบ เป็นปัญหาในทาง “เศรษฐกิจ” เกี่ยวพันกับรายได้ เกี่ยวพันกับชีวิตความเป็นอยู่
เรียกตามสำนวน 66/23 ก็ต้องว่าเป็น “ความยากไร้ทางวัตถุ”
เท่ากับทหารนำ “มาตรการ” หรือ “เครื่องมือ” อย่างไม่สอดรับกับตัวปัญหา ตัวความเดือดร้อนที่เป็นจริงของชาวบ้าน
จึงเสี่ยงและล่อแหลมอย่างยิ่ง
ล่อแหลมและเสี่ยงที่จะทำให้ปัญหาอันระหว่าง “ความคับแค้นทางจิตใจ” กับ “ความยากไร้ทางวัตถุ” กลายเป็นเรื่องเดียวกัน
หากย้อนไปอ่าน 66/23 ก็จะเข้าใจ
จึงมิได้เป็นเรื่องแปลกที่แม้จะมีการเรียกตัวเข้าค่าย “ปรับทัศนคติ” ที่จังหวัดตรังและจังหวัดพัทลุงมาหมาดๆ แต่ก็มีความจำเป็นต้องเกิดขึ้นอีกที่จังหวัดชุมพร
หากฟังและสัมผัส “ปฏิกิริยา” ข้างเคียง
ก็พอจะอ่านออกว่า แนวโน้มและความเป็นไปได้อาจปะทุขึ้นที่ นครศรีธรรมราช กระบี่ พังงา สงขลา และสุราษฎร์ธานี ด้วย
และก็มาจาก “ปัญหา” และความเดือดร้อนเดียวกัน
เพราะนับแต่เกษตรกรชาวสวนยางเริ่มออกมาเคลื่อนไหวก็แทบไม่มี “มาตรการ” ในทางเศรษฐกิจหรือในเชิง “นโยบาย” ออกมาอย่างเป็นรูปธรรม
นอกจากเสียงเตือนอย่าทำให้เป็นเรื่อง “การเมือง”
ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง กรณีของจังหวัดตรัง กรณีของจังหวัดพัทลุง กรณีของจังหวัดชุมพร มาตรการของทหารสะท้อนลักษณะ “การเมือง” อย่างเด่นชัด
เกษตรกรชาวสวนยางต่างหากที่ยึดกุมปัญหา “เศรษฐกิจ”
หากปัญหาและความเดือดร้อนยังไม่ได้รับแก้ไข สะสางอย่างสอดรับกับตัวปัญหาและความเดือดร้อนก็ยากเป็นอย่างยิ่งที่จะจบ
หากมองจากสถานการณ์ก่อนและหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ก็น่าที่จะทำให้เกษตรกรชาวสวนยางพาราเกิดความสงสัย ไม่แน่ใจ
ก็พวกเขาเห็นด้วยกับ “รัฐประหาร”
ก็ผู้นำที่เคยนำพวกเขาต่อสู้ก็ออกมาให้คำรับรองว่า รัฐบาลหลังรัฐประหารเป็น “รัฐบาลของพวกเรา” แล้วเหตุใดรัฐบาลของ “พวกเรา” จึงทำกับ “พวกเรา” แบบนี้
3 ปีราคายางมีแต่เสื่อม มีแต่ทรุด