กรมอนามัยแนะ 1,000 วันแรกของชีวิตลูก เป็นช่วงวัยทองพัฒนาการทางสมองที่ต้องดูแล

 

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในการประชุมปฏิบัติการเรื่อง “ขับเคลื่อนนโยบายมหัศจรรย์ 1,000 วันแรกของชีวิต และแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินงานส่งเสริมเด็กอายุ 0-5 ปี สูงดีสมส่วน ฟันไม่ผุ พัฒนาการสมวัย” ว่า ใน 1,000 วันแรกของชีวิตนับตั้งแต่ปฏิสนธิจนถึง 2 ขวบ เป็นช่วงวัยทองของเด็กเพราะเป็นช่วงที่สมองจะมีการพัฒนามากที่สุด มีสร้างเซลล์สมองและการเชื่อมโยงระหว่างเซลล์สมองเกิดเป็นโครงข่ายใยประสาทนับล้านโครงข่าย ซึ่งมีผลต่อพัฒนาการทางสมองของเด็ก และการเรียนรู้ ดังนั้น เด็กจึงควรได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนในช่วงดังกล่าว

นพ.อรรถพลกล่าวว่า ใน 1,000 วันแรกจะแบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงตั้งครรภ์ 270 วัน แม่ควรกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ เช่น ปลา ตับ ไข่ ผัก ผลไม้ และนมสดรสจืด เสริมด้วยไอโอดีน ธาตุเหล็ก โฟลิก เป็นต้น ช่วงแรกเกิดถึง 6 เดือน รวม180 วัน เป็นช่วงที่ลูกควรได้กินนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนเต็ม เพราะนมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูก และช่วงหลัง 6 เดือนถึง 2 ขวบ รวม 550 วัน ให้ลูกกินนมแม่ควบคู่อาหารตามวัย เพื่อเป็นการเตรียมสมอง ร่วมกับการพัฒนาทักษะของเด็กโดยกระบวนการกระตุ้นผ่านกิจวัตรประจำวัน ในรูปแบบ กิน กอด เล่น เล่า ที่เหมาะสมจากผู้ปกครอง และชุมชน

“การเตรียมคนไทยเข้าสู่ยุค 4.0 นั้นมีความสำคัญมาก จริงๆ ต้องเริ่มเตรียมความพร้อมก่อนที่จะตั้งครรภ์ด้วยซ้ำ กรมอนามัยจึงได้มีโครงการหญิงไทยแก้มแดง โดยให้กินวิตามินเสริม 2 ตัวคือธาตุเหล็กกับโฟลิกเพื่อไม่ให้แม่ซีด ป้องกันทารกพิการแต่กำเนิด จากนั้นก็เข้าสู่ช่วง 1,000 วันแรกนั้นคือช่วงสำคัญมากในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย ยิ่งตอนนี้เด็กไทยเกิดน้อยเพียง 6 แสนคนต่อปี ดังนั้น ต้องทำให้เป็นการเกิดที่มีคุณภาพ หากเด็กสมบูรณ์ตั้งแต่ในครรภ์ คลอดด้วยน้ำหนักตัวไม่ต่ำกว่า 2,500 กรัม โตมาก็จะลดความเสี่ยงในการเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้” นพ.อรรถพลกล่าว

Advertisement

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image