ตรังเตรียมชง 4 โครงการ 4 พันล้าน เสนอนายกฯประชุมครม.สัญจรอาทิตย์หน้า

เมื่อเวลา 08.30น.วันที่ 22 พฤศจิกายน ณ ห้องแถลงข่าวศาลากลางจังหวัดตรัง นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นายวสันต์ ถนอมทรัพย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานและร่วมแถลงข่าวประจำสัปดาห์ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชน ร่วมชี้แจงและรับฟังอย่างพร้อมเพรียง โดยมีประเด็นสำคัญของการเสนองบประมาณต่อการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร นอกสถานที่ครั้งที่3/2560การพัฒนาขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคใต้ ภายใต้โครงการสามเหลี่ยมมั่งคง มั่นคั่ง ยั่งยืน ระหว่างวันที่ 26-27 พฤศจิกายน ณ จังหวัดปัตตานี และสงขลา

นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า การประชุม ครม.สัญจร ในครั้งนี้ทางจังหวัดตรัง จะนำเสนอของบพัฒนาจังหวัดตรัง จำนวน 4,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการขยายสนามบินตรัง,โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายสถานที่รถไฟสุดสายอันดามัน เทศบาลเมืองกันตัง ไปยังท่าเทียบเรือนาเกลือ ต.นาเกลือ อ.กันตัง จ.ตรัง,โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำปะเหลียน และโครงการดำเนินการเพื่อให้เกิดโรงงานอุตสาหกรรมมากขึ้นในจังหวัด ทางจังหวัดจะนำเสนอหลักการและความจำเป็นต่อ นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เพื่อรับทราบ

นายศิริพัฒ กล่วว่า โดยเฉพาะ 1)โครงการขยายสนามบินตรัง มีความจำเป็นในอันที่จะต้องมีการขยายสนามบิน และสร้างอาคารใหม่ และยืนยันว่าโครงการดังกล่าวฝ่ายราชการเป็นผู้ริเริ่ม และต้องยืนยันต่อไปด้วยเหตุผลที่ว่างบประมาณยังไม่ได้มา เพราะต้องรองบประมาณปี 2562 เรื่องนี้ทางจังหวัดจะเป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมด ในวงเงินงบประมาณ 4,000 ล้านบาท แต่ต้องอยู่ในเงื่อนไขว่าจะต้องมีการเวนคืนที่ดินครบ 2)โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายสถานที่รถไฟสุดสายอันดามัน เทศบาลเมืองกันตัง ไปยังท่าเทียบเรือนาเกลือ ต.นาเกลือ อ.กันตัง จ.ตรัง เพื่อใช้เป็นเส้นทางขนส่งสินค้าไม้ยางพารา หรือผลิตภัณฑ์สินค้าอื่นๆที่จะออกสู่ทะเลอันดามันได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เนื่องจากเส้นทางรถยนต์ในขณะนี้ไม่สะดวกอ้อมไปอ้อมมา โดยสินค้าที่ขนส่งทางรถไฟจากสามารถลำเลียงมาจาก จังหวัดชุมพร มาชุมทางทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เข้าสถานีรถไฟตรัง สู่สถานีรถไฟกันตัง และไปสถานีรถไฟท่าเทียบเรือนาเกลือได้ทันที เบื้องต้นใช้งบประมาณ 1,000ล้านบาท

“ที่มีการกล่าวอ้างว่าถ้าสร้างขนส่งทางรถไฟ สินค้าจากปีนัง ประเทศมาเลเซีย จะไม่มาใช้ทางนี้ ผมว่าปีนังจะไม่มีก็ไม่เกี่ยว จังหวัดตรังไม่มีความจำเป็นต้องขึ้นกับปีนัง และเชื่อว่าถ้าลงทุนเส้นทางนี้ได้ ดีไม่ดีทางอินเดียจะมาใช้จุดนี้ด้วยก็ได้ ไม่ต้องสนใจกับบริษัทเอกชน บริษัทเดียว จังหวัดตรังต้องคิดใหม่ ถ้าทำได้ก็จะเกิดประโยชน์มา ประการสำคัญแทบจะไม่ต้องเวนคืนที่ดิน ทำลายสิ่งแวดล้อมก็ไม่มาก เราอาจจะต้องเสียบ้างแต่ในที่สุดเราก็ได้ประโยชน์มหาศาล พร้อมทั้งได้แลนด์มาร์กแห่งใหม่อีกด้วย อนาคตจังหวัดตรังสามารถเปิดการค้าขายไปยังเอเชียใต้ และยุโรปได้อีกด้วย เรื่องนี้ทางจังหวัดก็ได้มีการเสนอหลักการไป

Advertisement

“3)โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำปะเหลียน ระหว่าง ต.วังวน อ.กันตัง และ ต.บ้านนา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนระหว่างแม่น้ำฝั่งซ้ายและฝั่งขวา ระยะทางกว่า 50 กิโลเมตร ที่หวั่นกระทบต่อสิ่งแวดล้อมป่าชายเลน แหล่ง กุ้ง หอย ปู ปลา ซึ่งเป็นจุดพบกันระหว่างน้ำจืดกับน้ำเค็ม เรื่องนี้ตนได้บอกไปว่าให้มีการแสดงความเห็นระหว่างฝ่ายที่เห็นด้วยและคัดค้าน และเพื่อความเจริญของจังหวัดตรัง เรื่องนี้ตนก็ได้เสนอหลักการไปเช่นกัน และโครงการที่ 4 การดำเนินการเพื่อให้เกิดโรงงานอุตสาหกรรมมากขึ้นในจังหวัด โดยจะมีการขอแก้ไขผังเมือง ด้วยการแก้ไขเป็นจุดเฉพาะซึ่งจะทำได้ง่ายกว่าแก้ไขผังเมืองรวมทั้งจังหวัด ขณะนี้บางอำเภอเสนอมาแล้ว เพื่อจะคลายเพื่อไม่ให้มีสีเขียวทั้งหมด ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการสร้างอาคารและโรงแรม ซึ่งเราจะต้องยืนอยู่ได้ระหว่างสิ่งแวดล้อมที่ดีกับคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนคือประชาชนมีรายได้ มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย ไม่ใช่ว่าลบพื้นที่สีเขียวทิ้งเพื่อทำลายป่า ทำลายทรัพยกร แต่ต้องการให้คนอยู่ได้ด้วยมีอาชีพได้ด้วย” นายศิริพัฒ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image