ประชุมครั้งแรก! สืบข้อเท็จจริง ‘นพ.ยอร์น’ ตั้ง 2 ประเด็น ‘ดื่มสุราหรือไม่-ปฏิเสธเป่า’ คาด 15 วันรู้ผลก่อนตั้งสอบวินัยราชการ

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขต 11 ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง กรณี นพ.ยอร์น จิระนคร สาธารณสุขนิเทศก์เขต 12 กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ขับรถชน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย(รปภ.) ที่กระทรวงสาธารณสุขเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการครั้งแรก ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ว่า จากการประชุมของคณะกรรมการฯ ซึ่งประกอบด้วยตน ในฐานะประธาน นิติกร และผู้อำนวยการสำนักสาธารณสุขฉุกเฉิน ได้พิจารณาและตั้งประเด็นการสืบเบื้องต้น โดยได้ทำกรอบการทำงานขึ้น เพื่อสืบให้แล้วเสร็จภายในเวลา 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2560 โดยจะมุ่งเน้นเรื่องวินัยข้าราชการเป็นหลัก ส่วนเรื่องคดีอาญาจะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นพ.ณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ จะสืบใน 2 ประเด็นสำคัญ คือ 1.การดื่มสุราแล้วเมาจริงหรือไม่ ซึ่งข้อมูลจากผู้เกี่ยวข้องได้แก่ เจ้าหน้าที่ รปภ.ที่เข้าเวรในวันและเวลาที่เกิดเหตุจำนวนประมาณ 3-4 คน โดยอยู่ระหว่างทำหนังสือเชิญเข้าให้ปากคำ แม่ค้าร้านอาหารปู่ย่าตายาย เพื่อฟังข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ว่า เหตุการณ์ ณ วันนั้นเป็นอย่างไร และนพ.ยอร์น ก็จะต้องเชิญท่านให้ข้อมูลด้วย ส่วนพยานแวดล้อมต่างๆ จะใช้กล้องวงจรปิดภายในกระทรวงฯ ที่มีอยู่จำนวนมาก และ 2. เพราะเหตุใดถึงไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป่าวัดระดับแอลกอฮอล์

ผู้สื่อข่าวถามว่า การขัดคำสั่งเจ้าพนักงานในการไม่เป่าวัดแอลกอฮอล์ถือเป็นความผิดทางวินัยด้วยหรือไม่ นพ.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า กรณีนี้เป็นความประสงค์ส่วนตัวของผู้ถูกกล่าวหา ที่จะแจ้งประสงค์ยินยอมหรือไม่ยินยอมให้เป่าก็ได้ แต่คณะกรรมการฯต้องการทราบถึงเหตุผล เพื่อนำมาประกอบการพิจารณา

“หลักการพิจารณาเรื่องความผิดทางวินัยข้าราชการนั้น จำเป็นต้องรอผลการสืบข้อเท็จจริงจากกรอบดังกล่าวก่อน แต่ตามระเบียบข้าราชการก็ไม่ได้กำหนด เรื่องฐานความผิดเกี่ยวกับการเมาเป็นการเฉพาะ แต่จะเป็นเรื่องจริยธรรม ความเหมาะสม โดยเฉพาะการอยู่ในเครื่องแบบราชการหรือไม่ ซึ่งกรณีนี้จะมีการสืบข้อเท็จจริงด้วยว่า หากมีการดื่ม จะเข้าข่ายดื่มในเวลาราชการหรือไม่” ประธานฯ กล่าว

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ผ่านมาเคยมีข้าราชการที่กระทำความผิดในเรื่องการดื่มสุราหรือไม่ นพ.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า มีบ้างประปราย แต่ก็อาจไม่ได้รับความสนใจจากสังคม ส่วนใหญ่เป็นการดื่มนอกเวลาราชการ และไม่ได้สวมใส่เครื่องแบบราชการ ซึ่งกระทรวงฯ ก็มีการตักเตือนเสมอ ซึ่งกรณีนี้มีทุกกระทรวงและมีการตักเตือนกันทั้งหมด
นพ.ณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า หลังจากการสืบข้อเท็จจริงแล้วเสร็จ 15 วัน จะมีการพิจารณาถึงความผิดทางวินัยต่อไป โดยแบ่งเป็นความผิดทางวินัยร้ายแรง หรือความผิดวินัยไม่ร้ายแรง ซึ่งเรายังไม่ทราบว่า จะไปในทิศทางใด ต้องรอการสืบข้อเท็จจริงก่อน แต่โดยหลักเบื้องต้น หากผิดวินัยร้ายแรง จะมีโทษคือ ปลดออก หรือไล่ออก ส่วนความผิดวินัยไม่ร้ายแรง จะมีภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน หรือลดขั้นเงินเดือน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image