ตร.อัดวิดีโอสอบปากคำ ‘สับ วาปี’ กันกลับคำสารภาพ เผยครูอ๋องจ้าง 4 แสน ได้แค่ 2 พัน เตือนโลกโซเชียลระวังถูกหลอก

เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ที่จ.นครพนม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ พ.ต.อ.ศักดิ์ชาย สาดมะเริง รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม สอบปากคำนายสับ วาปี ได้อัดวีดีโอบันทึกเทปโดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง เพื่อป้องกันกรณีนายสับ วาปี กลับคำสารภาพในภายหลัง มี ร.ต.ต.ชัยยุทธ มัยวิสัย นายกเทศมนตรีเทศบาล ต.คำป่าหลาย อ.เมือง จ.มุกดาหาร อยู่ในห้องด้วย

จากนั้น นายสับ และ ร.ต.ต.ชัยยุทธ พร้อม พ.ต.อ.ชัชวาลย์ รอง ผบภ.ภ.จว.นครพนม ได้เข้าไปห้องส่วนตัว พล.ต.ต.สุวิชาญ ณาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.นครพนม  เพื่อร่วมสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง

พล.ต.ต.สุวิชาญ กล่าวหลังสอบปากคำนายสับ วาปี ว่า นายสับ วาปี ผู้ถูกกล่าวหา ในคดีแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนครพนม และ สภ.นาโดน อ.เรณูนคร ได้เดินทางมาพร้อมกับ ร.ต.ต.ชัยยุทธ นายกเทศบาล ต.คำป่าหลาย เพื่อติดต่อขอมอบตัว หลังสอบถามรายละเอียดนายสับ วาปี ได้เล่าให้ฟังถึงกระบวนการอย่างละเอียดยิบ ซึ่งตนจะมอบหมายให้พนักงานสอบสวนแจ้งความดำเนินคดี กรณีที่นายสับ วาปี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ผ่านมาเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้น

พล.ต.ต.สุวิชาญ กล่าวต่อว่า นายสับ วาปี ให้การรับสารภาพว่าเบื้องต้นผู้ว่าจ้างรับปากจะให้เงินเบื้องต้นจำนวน 4 แสนบาท แต่ถ้าหากเปลี่ยนตัวเป็นนายเสริฐ รูปสะอาด นายสับ วาปี จะได้เงิน 1 แสน ทั้งหมดทั้งปวงเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้น เป็นการสร้างเรื่องขึ้นมา โดยมีผู้ประสานงานตลอดคือนายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง และอีกหลายคน ค่อนข้างเป็นประโยชน์ต่อคดี ช่วงที่ครูอ๋องไปจ่ายเงินที่ศาลจังหวัดนครพนม ในขณะนั้นครูจอมทรัพย์ยังอยู่ในเรือนจำ นายสับ วาปี ยังสารภาพด้วยว่า ยังได้เจอครูอ๋องและยังขอบคุณด้วย
ผบก.ภ.จว.นครพนม กล่าวด้วยว่า วันนี้เพิ่งเริ่มต้นกำลังพิจารณา ส่วนคำเบิกความต่อศาลจังหวัดนครพนมของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดได้มาหมดแล้ว ซึ่งยังมีข้อหาเบิกความเห็นต่อศาล ก็ต้องนำมาพิจารณาประกอบคำรับสารภาพ หลังแจ้งข้อหาสอบสวนพิมพ์มือนายสับ วาปี เสร็จก็ต้องปล่อยตัวนายสับ และนัดในวันพรุ่งนี้วันที่ 23 พ.ย. จะได้นำตัวนายสับ วาปี ส่งพนักงานอัยการก่อน

Advertisement

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีเครือญาตินายสับ วาปี หลังเจ้าหน้าที่ออกหมายเรียกไปแล้ว พล.ต.ต.สุวิชาญ กล่าวว่า เท่าที่ทราบเป็นพี่ชายนายสับ และภรรยานายสับ มาเป็นเพื่อน ไปเซ็นเป็นพยานที่ สภ.นาโดน ก็น่าเห็นใจ แต่เป็นความผิดทางกฎหมาย จากคำให้การของนายสับ ยังระบุว่า เครือญาติก็รู้ว่าได้ให้การเท็จพนักงานสอบสวนที่ สภ.นาโดน ในครั้งนั้น ส่วนกรณีนายเสริฐ เขาบอกว่าขับรถไม่เป็น จึงกลับมาเป็นนายสับ วาปี อีกครั้ง จึงเป็นสองช่วง 2 ตอน ส่วนครูจอมทรัพย์ จะมีส่วนกับขบวนการรับจ้างผิดแทนหรือไม่ ต้องมีการพิจารณาต่อไป

พล.ต.ต.สุวิชาญ กล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้าที่นายสับ วาปี จะมามอบตัวนั้น นายสับ วาปีเล่าว่าได้ไปพบ ร.ต.ต.ชัยยุทธ นายกเทศบาล ต.คำป่าหลายก่อน เพื่อปรึกษาว่าจะหนีอย่างไร ในสุดท้ายนายสับ วาปี จึงมามอบตัวโดยบอกว่าวันนี้เขาโล่งใจแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่านายสุริยา หรือครูอ๋อง หลบหนีไปฝั่งลาวแล้วเท็จริงอย่างไร พล.ต.ต.สุวิชาญ กล่าวว่า ข่าวคือข่าว ทุกคนเป็นแค่ความผิดในหมายเรียก แต่ถ้าผู้ต้องหาพร้อมที่จะมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตามที่ได้ออกหมายเรียกไป อาจจะภายใน 7 วันหรือ 8 วัน แต่ถ้ามาพบเจ้าหน้าที่ก่อนก็ไม่ได้ผิดอะไร ส่วนกรณีครูอ๋องก็เป็นแค่ข่าวที่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อ ก็ไม่รู้จะหนีทำไม แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้ออกหมายเรียกไปแล้ว หากขัดหมายเรียกครั้งที่ 2 ก็ต้องออกหมายจับ

“คณะทำงานที่ตนแต่งตั้งขึ้นมา จะลงมากำกับคดีเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ไม่ใช่คณะทำงานสอบสวน ประเด็นหลักที่นายสับสารภาพมาทั้งหมดนั้น นายสับยอมรับว่าพูดเรื่องจริงทั้งหมดแล้ว มีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้องและผิดจริง คิดว่าไม่มีอะไรมาก แต่สิ่งตอบแทนที่ได้คือเงิน นายสับยังระบุด้วยว่าที่รับงานก็ไม่เคยเจอครูอ๋องมาก่อน เพียงแต่นายสับสมอ้างว่าเป็นเส้นทางของรถที่รับสมอ้าง และเป็นชื่อนายสับเป็นคนขับรถ วันนี้ตอบได้ว่ารถคันนี้ไม่ได้ชน ซึ่งนายสับบอกว่าขายเป็นเศษเหล็กแล้ว และสารภาพยืนยันว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง ซึ่งนายสับพูดด้วยว่าจากรับปากจะให้เงิน 4 แสน แต่ได้แค่ 2 พันบาท” พล.ต.ต.สุวิชาญ กล่าวในท้ายที่สุด

ขณะที่ พ.ต.อ.ศักดิ์ชาย หนึ่งในคณะทำงานชุดคลี่คลายคดี กล่าวว่า ส่วนกรณีของนางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ หนึ่งในกระบวนการที่เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายเรียกไปแล้ว ก็ต้องพิจารณาคำเบิกความของศาลซึ่งเป็นสาระสำคัญของนายทัศนีย์นั้น คำเบิกความเป็นเท็จหรือไม่ คณะทำงานก็ต้องนำมาพิจารณากัน ส่วนกรณีของนายเสริฐ รูปสะอาด ที่เคยมาให้การต่อศาลจังหวัดนครพนม ในครั้งที่มีการเบิกความของพยานฝ่ายคัดค้าน เมื่อระหว่างวันที่ 8-10 ก.พ.59 ที่ผ่านมา นายเสริฐให้การเป็นประโยชน์ในครั้งแรก อาจจะต้องกันตัวไว้เป็นพยาน ซึ่งจะได้หารือกับผู้บังคับบัญชาอีกครั้งหนึ่ง

ด้าน พ.ต.อ.ชัชวาลย์ ในฐานะโฆษก ภ.จว.นครพนม หลังศาลอ่านคำพิพากษาตัดสินชัดเจนแล้วว่าใครเป็นผู้กระทำผิด การมีใครมาอ้างว่าเป็นคนขับรถและให้การเท็จ โดยอำนาจหน้าที่ก็ต้องดำเนินคดี เพื่อให้เกิดความเข้าใจของประชาชน เนื่องจากในโลกโซเซียลถ้าใครไม่เข้าใจ ก็จะเป็นฝ่ายถูกหลอกเอา ในส่วนคดีของตำรวจ คดีแรกโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี อัตราโทษปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท ถ้ารับสารภาพหลังสอบสวนเสร็จก็ต้องส่งฟ้องศาล เมื่อสอบสวนยังไม่เสร็จก็ต้องผลัดฟ้อง กรณีนายสับไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ก็ต้องปล่อยตัวไป พรุ่งนี้ก็จะนัดหมายไปให้พนักงานอัยการยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดนครพนม

“ในส่วนคดีแรกเป็นข้อหาให้การเท็จต่อเจ้าพนักงาน ในส่วนของ สภ.นาโดนนั้น จะแจ้งข้อหานายสับ วาปี ในข้อหาไปแจ้งข้อความอันเป็นเท็จให้พนักงานสอบสวน หรือผู้มีอำนาจทางคดีอาญาลงบันทึกประจำวัน ซึ่งเป็นเอกสารของทางราชการ ดำเนินคดีต่อไป” โฆษก ภ.จว.นครพนม ระบุ

นายสับ วาปี กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า นายสุริยา นวลเจริญ หรือ ครูอ๋อง ได้เดินทางมาเกลี้ยกล่อมตนเอง ว่าจะว่าจ้างให้เป็นคนขับรถคันเกิดเหตุจำนวน 400,000 บาท ในช่วงนั้นไม่รู้คิดอย่างไรจึงตัดสินใจโดยที่ไม่คิดว่าจะมีเรื่องร้ายแรงถึงขนาดนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างยอมรับสารภาพตามที่ตำรวจกล่าวหา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image