เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2560 พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการประพฤติมิชอบ (ปปป.) สนธิกำลังตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่กองปราบปราม กว่า 100 คน นำหมายค้นจากศาลจังหวัดเชียงใหม่ บุกค้นบ้านพื้นที่เป้าหมาย 2 จุดในอำเภอเมืองเชียงใหม่ และอำเภอสันทราย และท่าทรายอีก 2 จุดในพื้นที่อำเภอไชยปราการ และอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเก็บพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีเรียกรับเงินจากผู้ประกอบการดูดทรายในแม่น้ำปิง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อใช้ในการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าในแม่น้ำ ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484
โดยจุดแรกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 152/26 หมู่ 2 หมู่บ้านภาวิล ตำบลท่าศาลา อำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านของนายพรชัย ใจมั่น นักวิชาการป่าไม้ สังกัดสำนักงานทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) และบ้านเลขที่ 258 หมู่ 3 ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านของนายไพโรจน์ คชรินทร์ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญ ส่วนทรัพยากรธรรมชาติ ก่อนจะเดินทางไปเก็บหลักฐานเพิ่มเติมที่ท่าทราย ริมน้ำแม่ปิง ในพื้นที่อำเภอฮอด และอำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่
ทั้งนี้การนำหมายศาลเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายเพื่อหาหลักฐานครั้งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการดูดทรายในจังหวัดเชียงใหม่ ว่า ถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ โดยเรียกรับเงินจากการขอใบอนุญาตใช้พื้นที่ป่าในแม่น้ำ รายละ 150,000 บาท ทั้งที่การขอใบอนุญาตจะเสียค่าธรรมเนียมเพียง 100 บาทเท่านั้น
พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นหนึ่งในยุทธการ ‘ปราบส่วยดูดทราย’ หลังจาก ปปป.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ประกอบการ ได้สืบสวนสอบสวนกระทั่งได้พยานหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะข้อมูลการโอนเงินเข้าบัญชีให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งปัญหาส่วยท่าทรายนี้มีมานานกว่า 10 ปีแล้ว นอกจากสร้างความเสื่อมเสียให้กับรัฐ ยังสร้างความเสียหายให้กับผู้ประกอบการธุรกิจด้วย
“วันนี้เจ้าหน้าที่สนธิกำลังบุกค้นบ้านพักของเจ้าหน้าที่รัฐที่ถูกร้องเรียน เพื่อหาหลักฐานนำไปประกอบในสำนวนยื่นเรื่องเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ของรัฐทั้ง 2 ราย ซึ่งเป็นข้าราชการระดับ ซี 7 โดยเชื่อว่าพยานหลักฐานที่มีจะสามารถเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ใช้ตำแหน่งหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์ในครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน
โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่นำหมายศาลบุกเข้าค้นที่บ้านบ้านเลขที่ 258 หมู่ 3 ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย เจ้าหน้าที่พบว่าพื้นที่ว่างห่างจากบ้านหลังดังกล่าวประมาณ 50 เมตร มีไม้สักท่อนกองอยู่กว่า 70 ท่อน มูลค่าไม่ต่ำกว่า 7 ล้านบาท จากการตรวจสอบพบว่าไม้สักท่อนทั้งหมดมีการตัวเลขถูกต้อง แต่ไม่ปรากฏว่ามีผู้มาแสดงตัวเป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่จึงอายัดไม้สักท่อนทั้งหมดไว้ตรวจสอบอีกครั้ง”
