พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ นายกสมาคมกีฬาเรือใบแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานการประชุมใหญ่พิเศษประจำปี พ.ศ.2560 เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่ห้องไชยญาติ นันทอุทยานสโมสร โดยมีวาระสำคัญคือการเลือกตั้งนายกสมาคมฯคนใหม่ แทน พล.ร.อ.ไกรสร ที่จะครบตามวาระ 2 ปี (พ.ศ.2558-2560) ในวันที่ 10 ธันวาคม
ก่อนเข้าวาระสำคัญ พล.ร.อ. ไกรสร เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะเข้ารับตำแหน่ง สมาคมฯได้รับคะแนนประเมินจากการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) เพียง 2.8 คะแนน จากคะแนนเต็ม 5 ก่อนที่ล่าสุดจะยกระดับได้คะแนนถึง 4.4 คะแนน ซึ่งถือว่าการบริหารที่ผ่านมาเดินมาถูกทาง นอกจากนี้ผลงานที่สมาคมกีฬาเรือใบฯ ทำมาตลอดโดยเฉพาะในการแข่งขันชิงแชมป์โลกออพติมิสต์ เวิลด์ ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ และซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่ประเทศมาเลเซีย ถือว่ายอดเยี่ยม เครดิตทั้งหมดต้องยกให้นักกีฬา สโมสรสมาชิก ทีมบริหาร รวมถึงผู้สนับสนุนทุกราย หากไม่ได้ทุกคนร่วมแรงร่วมใจคงไม่ประสบความสำเร็จขนาดนี้
เมื่อเข้าสู่วาระเลือกตั้ง ที่ประชุมได้แต่งตั้ง พล.ร.อ.พจนา เผือกผ่อง เป็นประธานดำเนินการ จากนั้นได้มีการเสนอชื่อ พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารเรือคนปัจจุบัน เข้าชิงตำแหน่งนายกสมาคมฯแต่เพียงผู้เดียว ก่อนที่สมาชิกทั้งหมดจะลงมติรับรองให้ พล.ร.อ.นริส นั่งตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาเรือใบฯ คนที่ 16 แบบเอกฉันท์
หลังการประชุม พล.ร.อ.ไกรสร เปิดเผยว่า สิ่งที่อยากให้นายกสมาคมฯคนใหม่สานต่อคือเรื่องของตัวนักกีฬา และโค้ช ไม่อยากให้ยึดติดอยู่กับนักกีฬากลุ่มเดียว ต้องมีตัวตายตัวแทน เพราะก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่งนั้นมีนักกีฬาน้อยมาก ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะคัดตัวนักกีฬารุ่นใหม่ขึ้นมาได้ส่วนหนึ่ง คิดว่านโยบายนี้น่าจะต้องต่อเนื่องเพื่อให้มีนักกีฬาทดแทนรุ่นต่อไป
พล.ร.อ.ไกรสรกล่าวอีกว่า สำหรับการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ ที่ประเทศอินโดนีเซียปีหน้า มองว่าทัพเรือใบไทยคงเจองานหนัก หากดูจากผลการแข่งขันในซีเกมส์ครั้งที่ผ่านมา นักแล่นใบไทยทำผลงานดีขึ้นจริง แต่ชาติอื่นก็ดีขึ้นเช่นกัน อีกทั้งครั้งนี้ยังมีเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น รวมถึงกลุ่มประเทศที่แยกมาจากรัสเซียด้วย หากเตรียมการไม่ดีอาจไม่มีที่ยืนในเอเชี่ยนเกมส์ รวมถึงโอลิมปิกเกมส์ในอนาคต จากนี้สมาคมฯคงต้องทำการบ้านหนักกว่าเดิม อย่างไรก็ตามตนเชื่อในศักยภาพของนายกสมาคมฯคนใหม่จะสามารถจัดการบริหารทุกอย่างได้เป็นอย่างดี
