กกต.ถกระเบียบ-ประกาศเสร็จแล้ว จ่อยื่นศาลรธน.ชี้ชัด ปมอำนาจจัดเลือกตั้งท้องถิ่น

“สมชัย” เผย กกต.พิจารณาระเบียบ ประกาศตามกม. พรรคการเมืองเสร็จแล้ว เตรียมส่งประกาศราชกิจจาฯ 27 พ.ย.นี้ พร้อมเผยยื่นศาลรธน. ชี้อำนาจจัดลต.ท้องถิ่นอังคารหน้า

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. แถลงว่า ที่ประชุมกกต.มีมติเห็นชอบร่างระเบียบและร่างประกาศกกต. ที่เกี่ยวข้องกับพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 8 ฉบับตามที่สำนักงานกกต.เสนอ โดยจากนี้เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบความเรียบร้อยและในวันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน ก็จะส่งไปประกาศในราชกิจจานุเบกษาคาดว่าจะมีผลใช้บังคับในสิ้นเดือนนี้ทันตามกรอบเวลา 60 วันที่พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองกำหนดไว้ ดังนั้นพรรคการเมือง หรือผู้ที่ประสงค์จะขอจัดตั้งพรรคขอให้เตรียมพร้อมในการที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย โดยกกต.พร้อมอำนวยความสะดวกในเรื่องเอกสาร ข้อมูลต่างๆ หรือหากมีข้อสงสัยสามารถทำหนังสือสอบถามมา และมีการตั้งคณะกรรมการที่ประกอบไปด้วยผู้เชียวชาญไว้ให้คำตอบรวม 6 ชุด รวมทั้งเตรียมจะจัดประชุมชี้แจงกับพรรคการเมืองเก่า และผู้ประสงค์จัดตั้งพรรคการเมืองใหม่

นายสมชัย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ที่ประชุมกกต.ก็ยังเห็นชอบร่างคำร้องที่จะเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า 2 มาตราของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกกต.ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยจะเป็นการยื่นในประเด็นอำนาจกกต.คนเดียวสามารถระงับยับยั้งการเลือกตั้งของหน่วยหรือเขตเลือกตั้งที่พบทุจริตได้หรือไม่ และกกต.มีอำนาจในการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นหรือไม่ ซึ่งขณะนี้เหลือเพียงให้กกต.ทั้ง 5 คนลงนามคาดว่าอย่างช้าไม่เกินวันที่ 28 พฤศจิกายน กกต.ทุกคนจะลงนามครบและยื่นศาลรัฐธรรมนูญได้

นายสมชัย ยังกล่าวถึงการประสานกับสำนักทะเบียนราษฎร์กระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ช่วยตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงฐานข้อมูลสมาชิกพรรคการเมือง ว่า ส่วนตัวมองว่าข้อมูลทะเบียนราษฎร์อย่างเดียวไม่เพียงพอ เพราะการอัพเดทข้อมูลจะต้องรวมถึงการตรวจสอบคุณสมบัติอื่นด้วย รวมทั้งต้องตรวจสอบความตั้งใจว่ายังจะเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้นอยู่หรือไม่ ดังนั้นคิดว่าเป็นหน้าที่ของพรรคที่ต้องสำรวจด้วยตัวของพรรคเอง ซึ่งก็ถือเป็นภาระหนัก ยิ่งพรรคการเมืองที่มีสมาชิกมาก ขณะนี้ก็เหลือเวลาอีกแค่ 44 วันจะครบกรอบ 90 วันที่กฎหมายกำหนด ดังนั้น หากคิดว่าไม่สามารถดำเนินการได้ทันก็ต้องเตรียมทำหนังสือขอขยายระยะเวลาการดำเนินการมายังนายทะเบียนพรรคการเมืองภายในวันที่ 5 มกราคม 2561 หากไม่ดำเนินการกกต.ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายให้พรรคการเมืองนั้นสิ้นสภาพไป

Advertisement

” แต่ยืนยันว่าเราไมได้ใจร้ายแต่เป็นการทำตามกฎหมาย ที่มีอยู่ ไม่ทำก็จะเป็นความผิด ที่บอกว่าจะแก้ไขกฎหมาย ในกกต.ยังไมได้คุยกัน ดังนั้นตราบใดที่กฎหมายยังเป็นอยู่อย่างนี้กกต.ต้องปฏิบัติตาม ถ้าคิดว่าดำเนินการไม่ทันตามกรอบเวลาก็ยื่นของขยายจะขอทีเดียว 3 ปีก็ได้ แต่จะไม่เป็นผลดีเพราะตลอดเวลาของการขอขยายพรรคก็จะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งไม่ได้ จึงควรขอขยายเป็นช่วงสั้น ๆ น่าจะดีกว่า”

ส่วนที่มีกระแสข่าวการตั้งพรรคทหาร โดยอาจจะใช้วิธีการซื้อหัวพรรคการเมืองเดิมไปดำเนินการนั้น นายสมชัย กล่าวว่า ยังให้คำตอบไม่ได้ แต่จากที่ศึกษาระเบียบการชื่อพรรค มีข้อห้ามอยู่ 3 ข้อ 1 คือห้ามตั้งชื่อพรรคซ้ำกับพรรคการเมืองที่ดำเนินกิจการในปัจจุบัน 2. ห้ามตั้งชื่อพรรคซ้ำกับที่จดจัดตั้งใน 10 ปีที่ผ่านมา และ 3. ห้ามตั้งชื่อเชื่อมโยงกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ดังนั้นถ้าตั้งนอกเหนือจากนี้น่าจะสามารถทำได้ใครมาก่อนก็จดตั้งชื่อพรรคได้ก่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image