ผู้ว่าฯฉะเชิงเทรา ชี้แจงความคืบหน้ากรณีปลาในกระชังและสัตว์น้ำตายจำนวนมากที่อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา
เมื่อวันที่22 พฤศจิกายน นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีปลาในกระชังและสัตว์น้ำตายเป็นจำนวนมากที่อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ว่าจากการที่เมื่อวานได้เรียกประชุมด่วนและได้มอบหมายให้โครงการชลประทานจังหวัด ประสานโครงการชลประทานจังหวัดนครนายก สระแก้ว ให้ปล่อยน้ำจากเขื่อนขุนด่านปราการชล จำนวน 500,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน /เขื่อนคลองพระสะทึง สู่คลองพระปรง คลองบางแตน จำนวน 200,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และอ่างเก็บน้ำคลองสียัด อำเภอท่าตะเกียบ จำนวน 500,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ลงสู่แม่น้ำบางปะกง เพื่อเจือจางน้ำเสียและเพิ่มคุณภาพออกซิเจนในน้ำนั้น ในวันนี้ เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ตรวจวัดค่าอ๊อกซิเจนละลาย (DO) ในแม่น้ำบางปะกงยังอยู่ในระดับต่ำกว่ามาตรฐาน จึงได้สั่งการโครงการชลประทานฉะเชิงเทรา ประสานขอระบายน้ำจากเขื่อนขุนด่านปราการชลเพิ่มขึ้นเป็น 1,728,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน /อ่างเก็บน้ำคลองสียัด 500,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และอ่างเก็บน้ำคลองพระสะทึง 200,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน รวม 2,428,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ผลปรากฎว่า การตรวจวัดคุณภาพน้ำล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงน้ำลง จุดที่ 1 ที่ว่าการอำเภอบ้านโพธิ์ ค่า DO= 2.39 จุดที่ 2 เขตอำเภอเมือง ค่า DO=2.64 จุดที่ 3 หน้าเทศบาลอำเภอบางคล้า ค่า DO=2.64 จุดที่ 4 ที่ว่าการอำเภอพนมสารคาม ค่า DO=2.64 จุดที่ 5 วัดหัวไทร ค่า DO=2.64 จุดที่ 6 วัดบางกระเจ็ดค่า DO=2.64 และจุดที่ 7 วัดปากคลองบางขนาก ค่า DO=2.64 ซึ่งหากค่า DO หรือค่าอ๊อกซิเจน เกิน 2 จะทำให้ปลาและสัตว์น้ำอยู่ได้ ส่วนค่าความเป็นกรด-ด่างและอุณหภูมิทั้ง 7 จุดอยู่ในค่าปกติ ซึ่งคาดว่าการปล่อยน้ำวันละ 2,428,000 ลูกบาศก์เมตร ลงสู่แม่น้ำบางปะกง จะเป็นการช่วยเจือจางน้ำให้เร็วขึ้น และทำให้คุณภาพน้ำดีขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้อำเภอบางน้ำเปรี้ยว ได้นำสารอีเอ็มมาช่วยในการบำบัดน้ำเสียในแม่น้ำบางปะกงอีกทางหนึ่งด้วย
