อัยการยื่นอุทธรณ์คดี’ทัวร์ศูนย์เหรียญ’แล้ว

เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน นายวันชาติ สันติกุญชร อธิบดีอัยการสำนักงานคณะกรรมการอัยการ และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยถึคดีทัวร์ศูนย์เหรียญว่า ตามที่ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาคดีนี้เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ที่ผ่านมา ให้ยกฟ้องจำเลยทั้ง 13 ราย โดยเห็นว่าพยานหลักฐานรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องโจทก์นั้น คณะทำงานอัยการ สำนักงานคดีศาลสูง สำนักงานอัยการสูงสุด ได้พิจารณาแล้ว ไม่เห็นพ้องกับคำพิพากษาของศาลอาญา โดยเห็นว่าพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบสามารถรับฟังได้ว่าจำเลยทั้ง 13 ราย กระทำความผิดตามฟ้อง จึงได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์แล้วในวันนี้ (23 พฤศจิกายน) เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาอย่างไร จะได้แจ้งให้สื่อมวลชนทราบต่อไป

สำหรับคดีนี้ พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษ 3 สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ยื่นฟ้องนายสมเกียรติ คงเจริญ จำเลยที่ 1, นางชวัล แจ่มโชคชัย จำเลยที่ 2, บริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด จำเลยที่ 3, นายสุรัตน์ โรจน์รุ่งรังสี จำเลยที่ 4, บริษัท รอยัล เจมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จำเลยที่ 5, บริษัท รอยัลไทย เฮิร์บ จำกัด จำเลยที่ 6, บริษัท บางกอก แฮนดิคราฟท์ เซ็นเตอร์ จำกัด จำเลยที่ 7, บริษัท รอยัล พาราไดซ์ จำกัด จำเลยที่ 8, นางนิสา โรจน์รุ่งรังสี จำเลยที่ 9, นายธงชัย โรจน์รุ่งรังสี จำเลยที่ 10, บริษัท บ้านขนมทองทิพย์ จำกัด จำเลยที่ 11, น.ส.สายทิพย์ โรจน์รุ่งรังสี จำเลยที่ 12, นายวินิจ จันทรมณี จำเลยที่ 13 ต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2559 ขอให้ลงโทษจำเลยรวม 13 ราย ในข้อหาฐานร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต อั้งยี่ ร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวหาประโยชน์ที่ไม่เป็นธรรมจากนักท่องเที่ยว ร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวจัดบริการนำเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวโดยไม่เรียกเก็บค่าบริการ หรือเรียกค่าบริการในอัตราที่เห็นได้ว่าไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวอันจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว หรือนักท่องเที่ยว และร่วมกันฟอกเงิน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image