เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้บรรดาผู้ประกอบการเจ้าของรีสอร์ตบนภูทับเบิก อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ พากันหวาดผวาแก๊งมิจฉาชีพหลอกปลอมเฟสบุ๊กรีสอร์ตและรับจองห้องพัก กระทั่งมีลูกค้าจำนวนหลายรายตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อ และโอนเงินค่าจองห้องพักให้กลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ แต่เมื่อเดินทางไปที่ภูทับเบิกเพื่อจะเข้าที่พัก แต่ปรากฎว่าทางผู้ประกอบการเจ้าของรีสอร์ต ปฎิเสธไม่เคยได้รับการติดต่อจองห้องพักและไม่ได้รับเงินโอนจากลูกค้าแต่อย่างใด ซึ่งภายหลังตรวจสอบสลิปการโอนเงินผ่านทางธนาคาร พบว่าไม่ใช่ชื่อและบัญชีของผู้ประกอบการเจ้าของรีสอร์ตแต่อย่างใด จนทำให้ความจริงเริ่มกระจ่างว่ามีแก๊งมิจฉาชีพปลอมเฟสบุ๊กและข้อมูล พร้อมสวมรอยเป็นเจ้าของรีสอร์ตหลอกให้ลูกค้าหรือนักท่องเที่ยวโอนเงินหลังจองห้องพัก ทำให้นักท่องเที่ยวที่ตกเป็นเหยื่อพร้อมผู้ประกอบการเจ้าของรีสอร์ต พากันไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนที่ สภ.หล่มเก่า จนทำให้ทราบว่ามีรีสอร์ตอีกหลายราย ที่ถูกแก๊งมิจฉาชีพปลอมเฟสบุ๊กและหลอกให้นักท่องเที่ยวจองห้องพักพร้อมให้โอนเงินให้ จึงส่งผลให้รีสอร์ตบนภูทับเบิกหลายแห่งเกิดอาการผวา ขณะที่บางรายแจ้งงดการรับจองห้องพักทางสื่อโซเชียลชั่วคราว พร้อมแจ้งเตือนให้ลูกค้าหรือนักท่องเที่ยวระมัดระวังตกเป็นเหยื่อ โดยขอให้ตรวจเช็คให้ดีก่อน
นายอนุวัฒน์ แซ่เถา เจ้าของรีสอร์ตชมวิวภูทับเบิก กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้รับการติดต่อจากนักท่องเที่ยวว่าได้จองห้องพักไว้ 2 ห้อง พร้อมโอนเงินจำนวน 2,400 บาทมาให้ จากนั้นได้แสดงหลักฐานสลิปการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารพาณิชย์ชื่อบัญชี WITTHAYA AIAM ให้ดู จึงปฎิเสธและยืนยันไปว่าไม่ใช่ชื่อบัญชีของรีสอร์ต แต่เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มาถึงภูทับเบิกและไม่มีที่พัก จึงเปิดห้องพักที่รีสอร์ตให้โดยคิดค่าที่พักแค่ 1,000 บาท จากนั้นได้พากันลงไปแจ้งความที่สภ.หล่มเก่า
ข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้นางวรินทร์ แซ่ท่อ เจ้าของรีสอร์ตภูฟ้าเพียงดิน ภูทับเบิก ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนสภ.หล่มเก่า เพื่อแจ้งบันทึกไว้ให้ทาวตำรวจช่วยตรวจสอบ หลังมีลูกค้าจำนวนหลายรายได้ถูก 2 มิจฉาชีพชื่อ น.ส.สุชาดาและนายสราวุธ ปลอมข้อมูลหลอกให้โอนเงินค่าจองห้องพักผ่านธนาคารพาณิชย์ จนสูญเงินไปกว่า 10,000 บาท ต่อมาทางรีสอร์ตได้ประกาศแจ้งเบอร์โทรศัพท์ผ่านสื่อโซเชียลเพื่อให้ลูกค้าติดต่อโดยตรง
