ครูสาวควบปาเจโร่เสียหลักพลิกคว่ำ อัดก๊อปปี้ประตูรั้วบ้านนักข่าวท้องถิ่นเมืองตรังพังยับ ชาวบ้านถามหน่วยงานที่รับผิดชอบความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอยู่ตรงไหน วอนอย่าทำงานแบบ “ขอไปที”
เมื่อวันที่ 23 พ.ย. พ.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ คำนึง รอง สว.(สอบสวน)สภ.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุ รถเสียหลักพลิกคว่ำชนกำแพงบ้านเสียหายที่บ้านเลขที่ 28/4 ถนนตรัง-ปะเหลียน หมู่ที่ 4 ต.ท่าพญา อ.ปะเหลียน ซึ่งมีนายพรชัยนาคพล อายุ58 ปีบรรณาธิการนสพ.อันดามันไทม์ และกรรมการสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย เป็นเจ้าของบ้าน ภายหลังจากรับแจ้งจึงได้รีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยตำรวจสายตรวจตำบล ถึงที่เกิดเหตุพบชาวบ้านจำนวนมากกำลังมุงดูเหตุการณ์อยู่บริเวณประตูรั้วบ้าน พบรถมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีขาว หมายเลขทะเบียน กย 2052 ภูเก็ตพลิกตะแคงซ้ายอยู่ภายในรั้วบ้าน สภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน จากการตรวจสอบประตูรั้วเหล็กพังยับติดคาอยู่กับตัวรถและเสาปูนกำแพงรั้วบ้าน ได้รับความเสียหาย
จากการสอบสวนทราบว่า รถคันดังกล่าว มีนางวิชุดา มลพง อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 หมู่ที่7 ต.หาดสำราญ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง อาชีพครูอัตราจ้าง รร.บ้านท่าข้าม อ.ปะเหลียน เป็นคนขับพร้อมทั้งให้การว่า เมื่อช่วงย่ำรุ่ง ได้ขับรถคันดังกล่าวออกมาจากเฝ้าไข้บุตรที่ได้รักษาตัวอยู่ รพ.แห่งหนึ่งในตัวเมืองตรัง เพื่อที่จะกลับมาทำงานตามปกติขณะที่ช่วงเกิดเหตุ
โดยได้ขับรถอยู่บนถนนที่มีสภาพกำลังปรับผิวจราจรอยู่ประกอบกับความมืด รถได้ตกลงบนพื้นถนนที่ต่างระดับ ทำให้รถเสียหลักพลิกตะแคงหลายตลบจนเข้าไปชนกับกำแพงบ้าน และรถได้ไถลไปอยู่ภายในบ้าน ทำให้ทรัพย์ได้รับความเสียหายดังกล่าวแต่โชคดีที่ตนเองปลอดภัย ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด โดยในรอบปี 2560 นี้ รถคันดังกล่าวได้เกิดเหตุพลิกคว่ำ รวม 3 ครั้ง รถได้พังเสียหายหนัก แต่คนขับทุกคนปลอดภัยทุกครั้ง
ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่แจ้งว่า เมื่อคืนนี้ที่ผ่านมาจุดเดียวกันบนถนนสายดังกล่าว ภายในเวลาแค่ 3 ชม.ได้เกิดเหตุรถเสียหลักพลิกคว่ำ ถึง 3 คันได้รับเสียหายทั้งร่างกายและทรัพย์สิน ผลพวงจากหน่วยงานที่ทำถนนไม่ได้ติดตั้งป้ายสัญญาณไฟและวางแนวกั้นถนนต่างระดับ เพื่อแจ้งเตือนผู้ขับขี่ให้ระมัดระวังไว้แต่อย่างใดปล่อยให้รถวิ่งกันตามอำเภอใจ ที่สำคัญบางช่วงเป็นหลุมเป็นบ่อ ส่งผลทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น และวิงวอนไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาดูแลรวมทั้งกำกับควบคุมผู้รับเหมาอย่างเข้มงวด และอย่าทำงานแบบ “ขอไปที” เพราะเมื่อหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นต่างหวาดกลัว ไม่รู้ว่าความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินอยู่ตรงไหน.
