ผบก.ตร. สั่งแจ้งความ-เสนอออกหมายจับครูจอมทรัพย์ เบิกความเท็จ

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการดำเนินคดีกับขบวนการรับจ้างทำผิดแทนในคดีครูจอมทรัพย์ หรือนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 55 ปี อดีตข้าราชการครู ชาว จ.สกลนคร กรณีออกมาร้องทุกข์กระทรวงยุติธรรม หลังพ้นโทษจากเรือนจำ ถูกตัดสินจำคุก 3 ปี 2 เดือนว่าตกเป็นแพะในคดีขับรถชนคนตาย

เหตุเกิดตั้งแต่ปี 2548 ในพื้นที่ สภ.นาโดน อ.เรณูนคร จ.นครพนม เพื่อขอรื้อฟื้นคดีใหม่ แต่ศาลฎีกาได้ตัดสินยกคำร้องเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา โดยได้ยืนคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลฎีกาเดิม หมายถึงครูจอมทรัพย์ไม่ได้เป็นแพะ จนกระทั่งตำรวจมีการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับกลุ่มขบวนการรับจ้างทำผิดแทน เบื้องต้นมีการแจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว 7 ราย

โดยมีผู้ถูกกล่าวหาดังนี้ คนที่ 1 นายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทครูจอมทรัพย์ และยังมีหลักฐานเป็นบุคคลสำคัญในการตั้งขบวนการรับจ้างทำผิดแทน คนที่ 2 คือนายสับ วาปี อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นคนที่ออกมายืนยันว่าเป็นคนขับรถชนตัวจริง คนที่ 3 คือนางจัน วาปี อายุ 59 ปี ที่เป็นภรรยานายสับ วาปี คนที่ 4 คือนายบุญเทิง วาปี อายุ 63 ปี คนที่ 5 คือนายเลิศ วาปี อายุ 66 ปี คนที่ 6 คือนางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ อายุ 61 ปี พยานที่ยืนยันว่าเห็นเหตุการณ์มีคนขับรถชนเป็นชาย คนที่ 7 คือนายนิรันดร์ แสนเมืองโคตร อายุ 55 ปี ซึ่งมีการดำเนินคดีในข้อหาหลัก คือร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ซึ่งมีเพียงนายสับ วาปี อายุ 61 ปี เดินทางมารายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งได้ให้การยืนยันกับตำรวจว่ารับจ้างทำผิดจริง ซึ่งมีนายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทครูจอมทรัพย์เป็นผู้ว่าจ้าง ตั้งขบวนการรับจ้างทำผิดแทน ตกลงค่าจ้าง 4 แสนบาท แต่ยังไม่ได้เงิน

ล่าสุดทางตำรวจได้มีการสอบสวนพยานหลักฐานขยายผลเชื่อมไปยังบุคคลสำคัญ จนกระทั่งมีพยานหลักฐานชัดเจนว่า นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 55 ปี อดีตข้าราชการครู ชาว จ.สกลนคร มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นในกระบวนการรับจ้างทำผิดแทนตั้งแต่ต้น เนื่องจากคำให้การของนายสับ วาปี อายุ 61 ปี 1 ในผู้ต้องหา ที่เป็นพยานออกมาสารภาพยืนยัน เชื่อมโยงถึงนายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง ที่เคยนำเงินสด 1.7 แสนบาทมาให้นายสับ วาปี เพื่อไปจ่ายเงินชดเชยในทางแพ่งแก่ญาติผู้ตายที่ศาลจังหวัดนครพนม เพื่ออ้างว่า นายสับ วาปี เป็นคนขับรถตัวจริง ทั้งนี้ ทางตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม

Advertisement

มอบหมายให้ พ.ต.อ.ปราโมทย์ อุทากิจ ผกก.สอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม กล่าวหานางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 55 ปี อดีตข้าราชการครู ชาว จ.สกลนคร พร้อมด้วยนายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง เพื่อนสนิท ในข้อหาเบิกความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180 วรรคสอง ผู้ใดนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดี ถ้าเป็นพยานหลักฐานในข้อสำคัญในคดีนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าความผิดดังกล่าวในวรรคแรก ได้กระทำในการพิจารณาคดีอาญาผู้กระทำต้องระวางโทษไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 14,000 บาท ซึ่งมีการแจ้งความดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่เวลา 16.30 น. วันที่ 23 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา ตามคดีอาญาเลขที่ 828/60

ดังนั้น ในขั้นตอนอำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อเข้าฐานความผิดดังกล่าวซึ่งมีโทษเกิน 3 ปีขึ้นไป ไม่ต้องมีการออกหมายเรียก โดยได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอศาลจังหวัดนครพนมขออนุมัติออกหมายจับตามกฎหมายต่อไปทั้ง 2 ราย ซึ่งถือเป็นผู้บงการสำคัญในขบวนการรับจ้างทำผิดแทน ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหาในฐานความผิดต่างๆ จะต้องรอแนวทางการสอบสวนเพิ่มเติมหลังผู้ต้องหาเข้ามอบตัว หรือมีการมอบตัวรับทราบข้อกล่าวหา หากเข้าข่ายความผิดไหนในแนวทาง 7 ข้อหาที่ตำรวจตั้งไว้จะได้แจ้งเพิ่มเติม และแต่ละคนฐานความผิดจะแตกต่างกันไป แต่ในขั้นตอนเบื้องต้นได้ดำเนินคดีเอาผิดฐานเบิกความเท็จ และแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ซึ่งต้องมีการพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image