บทเรียน จากข่าว การตาย ณ เตรียมทหาร บทบาท ของ “สื่อ”

ไม่ว่าข่าวนักเรียนเตรียมทหารเสียชีวิตอย่างมากด้วยเงื่อนงำ ไม่ว่าข่าวนายพลทหารนำพวกบุกเข้าไปเทกแอ๊กชั่นในหน่วยนาวิกโยธินแห่งหนึ่ง

ไม่ได้มีจุดเริ่มมาจากหน้า “หนังสือพิมพ์”

ทั้งไม่ได้มีจุดเริ่มมาจากการนำเสนอข่าวผ่านโทรทัศน์ ไม่ว่าอนาล็อก ไม่ว่าดิจิทัล และไม่ได้มีจุดเริ่มมาจากการนำเสนอข่าวผ่านวิทยุ

หากแต่จุดประกายผ่าน “ออนไลน์”

Advertisement

เริ่มต้นจากการตั้งข้อสงสัย นำไปสู่การแสดงความเห็น “แย้ง” ต่อรายงานกระแสหลักอันมาจากหน่วยราชการ

และที่สุดก็ปักใจ “ไม่เชื่อ”

เมื่อการนำเสนอผ่านสื่อ “ออนไลน์” ในหลายๆ ช่องทางได้รับความสนใจ มีการแชร์กระจายออกไปอย่างกว้างขวาง จึงเริ่มได้รับความสนใจจากหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ และวิทยุ

Advertisement

กลายเป็น ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์

ในห้วง 2-3 ปีหลัง, เส้นทางของข่าวดำเนินไปในลักษณะของสะพานเชื่อมระหว่าง “สื่อใหม่” กับ “สื่อเก่า” อย่างมีลักษณะพิเศษ

เครื่องมืออย่างสำคัญ คือ สมาร์ทโฟน

พื้นฐานอย่างทรงความหมายก็คือ การจัดตั้งเว็บเพจผ่าน “เฟซบุ๊ก” อย่างมีลักษณะส่วนตัว แต่ก็มากด้วยเครือข่ายในลักษณะอันเป็น “ชุมชน”

“สมาร์ทโฟน” นั่นเองที่กลายเป็น “สถานี”

เป็นสถานีอันเสนอภาพ ข่าว อย่างรวดเร็ว ฉับไว ไม่ได้จำกัดแต่เพียงในประเทศ หากแต่ในขอบเขตทั่วโลก

เพียง “คลิก” เดียวก็เชื่อมต่อได้

สถานะแห่งการรายงานข่าวมิได้ผูกขาดอยู่แต่จากสำนักข่าวอันถือว่าเป็น “มืออาชีพ” ตรงกันข้าม ใคร ที่ไหนก็สามารถทำหน้าที่รายงานข่าวได้

นี่คือ “ฐาน” แห่งการแพร่กระจาย “ข่าวสาร”

รูปธรรมจากกรณีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของนักเรียน“เตรียมทหาร” รูปธรรมจากกรณีนายพลทหารบุกเข้าไปยังหน่วยนาวิกโยธินของ “ทร.”

เป็นรูปธรรมล่าสุดของ “ข่าว”

พลันที่กรณีนี้ตกถึงมือ หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ ย่อมหมายความว่าข่าวได้กลายเป็นกระแสหลักแห่งความสนใจ

โดยมีฐาน “คนติดตาม” เรือนแสน เรือนล้าน

ผลก็คือ มีความจำเป็นที่หน่วยราชการซึ่งเกี่ยวข้องจะต้องมาทำความกระจ่าง หากเป็นนักเรียนเตรียมทหารก็ต้องกองบัญชาการกองทัพไทย

และหากเป็นหน่วยนาวิกโยธินก็ต้องกองทัพเรือ

ความน่าสนใจอยู่ตรงที่สายพานแห่งข่าวเหล่านี้ไม่สามารถดำรงอยู่ในลักษณะด้านเดียวอีกต่อไปแล้ว ตรงกันข้าม หากดำเนินไปอย่างมีการปะทะ ขัดแย้ง

กว่าจะถึงขั้นสุดท้ายของ “ความจริง”

ไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่มี ไม่ว่าจะมีสภาอันมาจากการเลือกของประชาชนหรือสภาแต่งตั้ง แต่วิถีของข่าวดำเนินไปเช่นนี้และมีบทบาทเด่นชัดยิ่งขึ้น

แนวโน้มที่เห็นก็คือ บทบาทของสื่อออนไลน์ บทบาทของโซเชียลมีเดีย

เริ่มรุกคืบและค่อยๆ เข้าไปยึดครองพื้นที่ของสื่อหนังสือพิมพ์ สื่อโทรทัศน์

อาจยังมิได้ครอบงำ อาจยังมิใช่ด้านหลัก

แต่ก็ส่อความเป็นไปได้ที่จะรุกคืบ แสดงบทบาทอย่างเป็นรูปธรรมและอยู่ในลักษณะอันเป็นฝ่ายกระทำมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ

โดยสื่อหนังสือพิมพ์ สื่อโทรทัศน์กำลังถอยร่น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image