เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า พายุดีเปรสชั่น “คิโรกี” ผ่านพ้นไป อุณหภูมิในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเริ่มจะลดลงอีกครั้ง ซึ่งโรคที่พบบ่อยในช่วงนี้ คือโรคไข้หวัดใหญ่ ข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 60 ประเทศไทยพบผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ 52 ราย จากผู้ป่วยทั้งสิ้น 179,986 ราย พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมาประมาณ 4,000 ราย โดยเฉพาะจังหวัดกรุงเทพมหานครพบผู้ป่วยมากที่สุดกว่า 47,214 ราย รองลงมาคือ ระยอง จันทบุรี หนองคาย และเชียงใหม่ ตามลำดับ พบกลุ่มวัยเด็กเล็กและวัยเรียน คือ แรกเกิดถึงอายุ 9 ปี มีอัตราป่วยมากที่สุด
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า กรมควบคุมโรค ได้กำชับให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคทั้ง 12 เขต และสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง เฝ้าระวัง ป้องกัน ดูแล ผู้ที่มีอาการคล้ายโรคไข้หวัดใหญ่ และกำชับให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเฝ้าระวังและส่งเสริมความรู้ในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่แก่ประชาชน โดยเฉพาะสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก เช่น ค่ายทหาร เรือนจำ โรงเรียน หากพบผู้ป่วยให้แยกออกมา เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อและพักรักษาจนกว่าจะหายเป็นปกติ
“สำหรับประชาชนทั่วไป ขอให้ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ยึดหลัก “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” ได้แก่ ปิด คือ ปิดปาก ปิดจมูก เมื่อไอ จามต้องใช้ผ้าหรือกระดาษทิชชูปิดปากและจมูกทุกครั้ง หากเจ็บป่วยด้วยไข้หวัดควรใช้หน้ากากอนามัย เมื่อต้องไปในที่ชุมชน, ล้าง คือ ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ เมื่อสัมผัสสิ่งของ เช่น กลอนประตู ลูกบิด ราวบันใด ราวบนรถโดยสาร, เลี่ยง คือ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย, หยุด คือ เมื่อป่วย ควรหยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรมในสถานที่แออัด แม้ผู้ป่วยจะมีอาการไม่มากก็ควรหยุดพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 7 วัน นับจากวันเริ่มป่วยหรือหลังจากหายเป็นปกติแล้วอย่างน้อย 1 วัน” อธิบดี คร.กล่าว
