เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ร.ต.ท.หญิง วาธิณี อินทะวงษ์ พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ควบคุมตัวนายซี (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ชาว จ.นนทบุรี และนายธนภัค สุพรรณเภสัช หรือเพิร์ธ อายุ 19 ปี ชาว กทม. ผู้ต้องหาคดีพยายามฆ่าผู้อื่นมาขออำนาจศาลฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน เนื่องจากสอบสวนและควบคุมตัวผู้ต้องหาจะครบ 48 ชั่วโมงแล้ว แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น จะต้องรอสอบสวนพยานอีก 3 ปาก และรอผลการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมจากกองทะเบียนประวัติอาชญากรรม จึงขอศาลฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 5 ธันวาคม
คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายสุขสันต์ นกศิริ หรือยีนต์ มีเหตุทะเลาะวิวาทกับนายกุลธวัช วิสิทธิ์ อายุ 26 ปี ลูกชายนายตำรวจยศ พ.ต.ท. ผู้เสียหาย ที่บริเวณร้านสามล้อ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ จนกระทั่งผู้ดูแลร้านไล่ออกไป หลังจากนั้นนายสุขสันต์ได้ติดต่อให้ผู้ต้องหากับพวกอีกหลายคนมาที่ร้านและพยายามเข้าไปในร้าน แต่ถูกห้ามไว้ จึงทำได้เพียงขับรถวนอยู่หน้าร้าน จนกระทั่งเวลา 01.20 น. ขณะที่นายกุลธวัช ผู้เสียหาย ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากร้าน ผู้ต้องหาได้ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าพีซีเอ็กซ์ 150 สีส้ม-ดำ ทะเบียน 6 กฮ 8208 กรุงเทพมหานคร ไล่ตามและเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ของนายกุลธวัช ผู้เสียหาย จนรถล้มลง จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาได้ร่วมกันใช้กำลังทำร้าย โดยใช้ขวดแก้วขว้างใส่ผู้เสียหายที่ถูกรถจักรยานยนต์ล้มทับอยู่ จนเกิดการระเบิดและลุกไหม้รถจักรยานยนต์และตัวนายกุลธวัชได้รับบาดเจ็บสาหัส เชื่อว่าหากไม่ได้รับการรักษาโดยเร็วจะถึงแก่ชีวิต
และหลังจากเพลิงลุกไหม้ ผู้ต้องหากับพวกได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับ กระทั่งเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งสองห้อง และตำรวจ กก.สส.บก.น.2 ร่วมกันจับกุมนายธนายุทธได้บริเวณบ้านพัก ส่วนนายธนภัคจับได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 84/11 หมู่ 1 ซอยภูมิเวท 15 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงแจ้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นฯ และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย เหตุเกิดบริเวณหลังมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่
ท้ายคำร้องระบุว่า หากมีการยื่นคำร้องขอประกันตัว พนักงานสอบสวนขอคัดค้านประกัน เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลบหนี และไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง
ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้ ภายหลังญาตินายธนภัคผู้ต้องหายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์กรมธรรม์ประกันอิสรภาพ มูลค่า 3 แสนบาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวไป ส่วนนายซีน ไม่มีญาติยื่นคำร้องขอประกันตัวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จึงนำตัวไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ
