เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายสุกรี เจริญสุข อดีตคณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ยื่นฟ้องนพ.บรรจง มไหสวริยะ และพวกรวม 5 คนที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในข้อหาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ฯ โดยคำฟ้องระบุว่า ขณะที่นายสุกรีดำรงตำแหน่งคณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และกำลังจะพ้นวาระเมื่อวันที่ 19 กันยายน มหาวิทยาลัยมหิดลจึงเตรียมการสรรหาคณบดีฯคนใหม่ และหลังจากมีการตั้งคณะกรรมการสรรหาคณบดีแล้วได้มีการดำเนินการลงโฆษณาประกาศรับสมัครระหว่างวันที่ 9-18 สิงหาคม
คำฟ้องระบุว่า วันที่ 25 สิงหาคม นายสุกรีได้รับจดหมายจากนพ.บรรจง ในฐานะรักษาการอธิการบดีฯ ให้ส่งข้อมูลพื้นฐาน รายงานประจำปี โครงสร้าง การแบ่งส่วนงาน หลักสูตร จำนวนอาจารย์ จำนวนนักศึกษา รายงานเรื่องรายรับรายจ่ายทางการเงินให้แก่ ดร.เมธา เลิศตำหรับ ผู้สมัครรายเดียว ซึ่งนายสุกรีไม่ยินยอม เพราะเห็นว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมาย เนื่องจากเป็นการนำเอาความลับราชการไปเปิดเผยบุคคลภายนอกวิทยาลัย แต่นพ.บรรจงและพวกยังจงใจที่จะให้ข้อมูลนั้นแก่บุคคลภายนอก
“โจทก์ขอกราบเรียนว่า จำเลยที่ 1 ไม่ได้ขอข้อมูลให้ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อและมีสิทธิเข้าแสดงวิสัยทัศน์รายอื่น” คำฟ้องระบุ
ต่อมาวันที่ 18 ตุลาคม ได้มีอาจารย์ประจำวิทยาลัยฯ ทำหนังสือร้องเรียนไปยังสภามหาวิทยาลัยมหิดลพิจารณา แต่สภามหาวิทยาลัยได้บรรจุวาระให้จำเลยได้ชี้แจงข้อร้องเรียน โดยไม่ได้พิจารณาข้อเท็จจริงข้อร้องเรียน และในการประชุมสภามหาวิทยาลัยเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน แม้จะทราบว่าสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษาให้พิจารณาเรื่องที่นายสุกรีร้องเรียนไว้ แต่ในการประชุมก็เปิดให้มีการชี้แจงข้อร้องเรียนแต่ฝ่ายเดียว
ในท้ายคำฟ้องระบุว่า นายสุกรีได้ยื่นฟ้องสภามหาวิทยาลัยมหิดลและนายบรรจงต่อศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม เพื่อขอให้เพิกถอนมติอนุมัติและรับรองการแต่งตั้งนายบรรจงเป็นอธิการบดี และขอให้สั่งให้นพ.บรรจงขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นอธิการบดี เนื่องจากนพ.บรรจงมิได้มีสภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยมหิดลและมิได้สมัครเข้ารับการสรรหาในขณะเปิดรับสมัครสรรหาอธิการบดี จากพฤติกรรมดังกล่าวจึงทำให้นายสุกรีเห็นว่าจำเลยมีความผิด และขอให้ศาลพิจารณาลงโทษจำเลยต่อไป
