ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่มี เอกลักษณ์ เฉพาะตัว แบบที่หาทีมอื่นในพรีเมียร์ลีกมาทาบไม่ติด นั่นคือการเป็นทีม “หงส์ทำได้”
ทำเรื่องดีที่สุดได้ เรื่องแย่ที่สุดก็มีให้เห็นประจำ
สัปดาห์ที่ผ่านมา แฟนๆ เพิ่งดีใจที่ทีมเอาชนะ 3 นัดรวดในลีกเป็นครั้งแรก พอถึงเกมมิดวีกลงเตะแชมเปี้ยนส์ลีกกับ เซบีญ่า ผ่านไป 30 นาที ลิเวอร์พูลยิงอุตลุดนำห่าง 3-0
แต่พอครึ่งหลังก็คืนของให้ครบ จบเกมเสมอ 3-3
เหนือประตูทางออกสู่สนามแอนฟิลด์มีป้ายเขียนขู่ต่อสู้ว่า This is Anfield รู้มั้ย…นี่มันแอนฟิลด์
แต่สำหรับ หงส์แดงชุดปัจจุบัน แฟนบอลคงมีป้ายประจำตัวให้นักเตะอยู่ในใจว่า This is Liverpool รู้มั้ย…นี่แหละ ลิเวอร์พูล!
หงส์เอาแน่นอนไม่ได้ เพราะปัญหาเดิมๆ คือเกมรับโคตรจะแย่
นัดเสมอเซบีญ่า เสีย 3 ประตูจากลูกตั้งเตะล้วนๆ ทั้งลูกเตะมุม, ฟรีคิก และจุดโทษ ที่แจกโดย อัลเบร์โต้ โมเรโน่ (เจ้าเก่า)
ผมดูเกมนี้แล้ว สรุปเหมือนเดิมว่า ลิเวอร์พูลไม่สามารถฝากชีวิตไว้กับเกมรับได้แน่นอน
จะบอกว่าโดนยิง 3 ลูกในครึ่งหลัง เพราะโชคร้ายเจอลูกฮึดเจ้าบ้านก็ไม่ใช่ เพราะครึ่งแรกที่นำเขา 3-0 จริงๆ แล้ว ตัวเองก็โดนเจาะเจียนอยู่เจียนไปหลายหนเหมือนกัน
นี่ขนาดเจอเซบีญ่าที่ไม่ได้รวดเร็วอะไรมากมาย วันเสาร์นี้มาเตะกับ เชลซี ที่คล่องกว่า คมกว่ากันเยอะ หงส์ไม่บานเบิกหรอกรึ?
มันก็ไม่แน่ อย่าลืมว่านี่คือ ลิเวอร์พูล (นะจ๊ะ)
เกมรับอาจจะบู่ แต่แนวรุกยังเชื่อมือได้ โม ซาลาห์ กับ ซาดิโอ มาเน่ ใช้ความเร็วฉีกกองหลังเชลซีสบายๆ ถ้าไม่ใช้โอกาสเปลืองเกินไป ก็น่าจะยิงได้ซักลูก-สองลูก
จากนั้นค่อยมา วัดใจกองหลัง ว่าจะโดนเชลซีเอาคืนซักกี่ประตู (ฮา)
ลิเวอร์พูลมีสิทธิได้แต้มนะครับ นอกจากเล่นในบ้านแล้ว ยังสดกว่า กลางสัปดาห์ได้พักมากกว่าเชลซี 1 วัน สิงห์น้ำเงิน เพิ่งเตะแชมเปี้ยนส์ลีก กับ คาราบัก เมื่อคืนวันพุธ เดินทาง 5,000 ไมล์ไปเล่นที่อาเซอร์ไบจาน นั่งเครื่อง 5 ชั่วโมงครึ่ง กลับมาถึงอังกฤษเช้าวันพฤหัส ได้พักวันเดียวก็ต้องเตรียมเตะกับหงส์แดงต่อ
สองทีมนี้ห่างกันแค่ 3 แต้ม นี่คือ โอกาสทอง ที่ลิเวอร์พูลจะตามทัน และยังเป็นโอกาสที่จะขอโทษแฟนๆ ด้วย
ที่เละก็เละไป เสาร์นี้ถ้าฮึดเก็บ 3 แต้มได้ ทุกคนคงให้อภัย
แล้วก็ลืมๆ ไปว่า อัลเบร์โต้ โมเรโน่ ยังเป็นแบ๊กซ้ายตัวจริงต่อ ใจหายใจคว่ำกันต่อ
รู้ซะ นี่แหละลิเวอร์พูล!