| ที่มา | มติชนออนไลน์ |
|---|---|
| ผู้เขียน | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
หอการค้า อย่าปล่อยลอยนวลรัฐราชการทำ “เสียของ”
เรือพนมสุรินทร์ เป็นเรือโบราณนับพันปีมาแล้ว ขุดพบในบ่อกุ้ง บริเวณพื้นที่ต่อเนื่องกรุงเทพฯ (เขตบางขุนเทียน)-สมุทรสาคร (อ. เมือง)
เป็นหลักฐานประวัติศาสตร์โบราณคดี ที่คนชั้นนำนานาชาติพันธุ์ในดินแดนไทยสมัยพันๆ ปีมาแล้ว เกี่ยวข้องกับการค้าโลกยุคเริ่มแรก
หอการค้า ถ้าจะให้ดีต้องร่วมกันผลักดันรัฐบาลกระตือรือร้นเร่งรัดบริหารจัดการแหล่งขุดพบเรือโบราณซึ่งเต็มไปด้วยคุณค่า ให้เป็น “ไทยเท่” ทางเศรษฐกิจวัฒนธรรม ทั้งด้านการท่องเที่ยวและการค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าให้ท้องถิ่น
กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) โดยลำพังยังอ่อนแอมากๆ ทางการบริหารจัดการพื้นที่ท้องถิ่นต่างๆ ที่มีคุณค่าและมูลค่าทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ดังนั้นหอการค้าจึงไม่ควรวางใจปล่อยลอยนวลรัฐราชการทำ “เสียของ”
ของดีมีอยู่ แต่ไม่รู้ค่าของการบริหารจัดการให้มีทั้งคุณค่าและมูลค่า ก็เหมือน “เพชรดีมีค่าราคายิ่ง อยู่กับลิงจะรู้ค่าราคาหรือ”
การค้าโลก
เรือพนมสุรินทร์ เป็นเรือทะเลสมุทร หลักฐานการค้าโลกยุคแรกเริ่มที่เข้าถึงอุษาคเนย์และดินแดนไทย ราวหลัง พ.ศ. 1000 หรือยุคทวารวดี ส่งผลให้อารยธรรมอินเดีย (พุทธ-พราหมณ์) เข้าถึงไทยและอุษาคเนย์
วัตถุสิ่งของที่พบในเรือ แสดงวิถีชีวิตของคนชั้นนำท้องถิ่นในยุคโน้น เกี่ยวข้องกับสินค้าจากตะวันออกกลางและกรีก-โรมัน ซึ่งต่างจากที่เคยรู้อย่างคับแคบมาก่อน หรือไม่เคยรู้เท่านี้ที่เห็นโลกกว้าง
ชายฝั่งทะเลยุคทวารวดี
แหล่งขุดพบซากเรือพนมสุรินทร์ซึ่งแล่นเลียบชายฝั่ง เป็นหลักฐานความรู้ใหม่ว่าชายฝั่งทะเลยุคนั้น (ทวารวดี) โดยเฉลี่ยอยู่ตามแนวถนนพระราม 2
เท่ากับแก้ความเข้าใจเก่าที่ว่าอยู่ลึกถึงสุพรรณบุรี หรือลพบุรี ซึ่งไม่จริงอย่างนั้น
ของดีมีอยู่ ท่ามกลางย่านท่องเที่ยว
แหล่งพบเรือพนมสุรินทร์ อยู่ท่ามกลางแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย บนพื้นที่ต่อเนื่องกรุงเทพฯ-สมุทรสาคร มีถนนหนทางอย่างดีเหมือนใยแมงมุม เชื่อมถึงกันสะดวกและปลอดภัย (ถ้าเมาไม่ขับ) ได้แก่
(1.) ชายทะเลบางขุนเทียน (2.) ศาลพันท้ายนรสิงห์ (3.) กิจกรรมตกปลานากุ้ง (บ่อกุ้ง) ทุ่งกว้างน้ำกร่อย (4.) เส้นทางคลองประวัติศาสตร์คลองด่าน, คลองสนามชัย, คลองมหาชัย มีในนิราศหลายเรื่อง เช่น พระราชนิพนธ์ ร.1, พระยาตรัง, นายนรินทร์อิน, สุนทรภู่ ฯลฯ
หอการค้าน่าจะกระตุ้นรัฐบาลว่าอย่าปล่อยทิ้งแหล่งพบเรือพนมสุรินทร์ แม้ยังไม่มีงบฯทำงานต่อ (เพราะกำลังรองบฯ ใหม่) ก็ควรปรับปรุงเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม แบ่งปันเผยแพร่ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการค้าโลก โดยทำง่ายๆ ซึ่งทำได้ไม่ยาก
เพราะมีนักท่องเที่ยวผ่านไปมาอยู่แล้วย่านนั้น วันละเป็นพัน ถ้าเทศกาลก็เป็นหมื่นๆ เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าแหล่งเรือโบราณอยู่ตรงไหน? สำคัญยังไง?
ถ้าเพิ่มเข้าไปเป็นอีกแหล่งหนึ่ง ก็น่าเชื่อว่ามีผู้ต้องการเยี่ยมชมจำนวนมากๆ (นอกเหนือจากที่ไปขอหวย) เพราะไม่เป็นแหล่งโบราณคดีประเภทวัด, เจดีย์, เศียรพระพุทธรูป, เทวรูป ฯลฯ แต่เป็นแหล่งสากล สมแท้กับ “ไทยเท่”
แหล่งประวัติศาสตร์โบราณคดีมีแล้ว สตอรี่ก็มีแล้วตามแนวสากล ปัญหาอยู่ที่ทางการไม่เอื้อเฟื้อประชาชนพลเมืองโดยแบ่งปันข้อมูลความรู้สู่สาธารณะ เอาแต่ยกความสำคัญตนเอง เรียกร้องให้ชาวบ้านชาวเมืองเข้าใจโบราณคดี อย่างนี้ใครจะอยากเข้าใจ
ของดีมีอยู่ ถ้าไม่รู้จักบริหารจัดการก็เหมือนลิงได้แก้ว
