ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
---|
แม้ทั้ง นายจาตุรนต์ ฉายแสง และ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ จะแลกเปลี่ยนกันในเรื่องโอกาสที่พรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทยจะจับมือกัน
กระทั่งกลายเป็น “พาดหัว” หนังสือพิมพ์
แต่ก็เสมอเป็นเพียง “ทางโน้ม” สถานะจึงดำรงอยู่เหมือนกับที่ นายพิชัย รัตตกุล เคยเสนอในเชิงเรียกร้องมาแล้วหนหนึ่ง
ยังเสมอเป็นเพียง “ความใฝ่ฝัน”
กระนั้นก็ต้องยอมรับว่าความใฝ่ฝันในลักษณะนี้ก็เป็นทางออกอันเป็น “แนวทาง” 1 ที่จะสามารถตัดโอกาสของ คสช.ลงได้อย่างเป็นจริง
เพียงแต่ในแต่ละฝ่ายยังไม่ “สุกงอม” เท่านั้น
ความไม่สุกงอมที่จะร่วมมือกันระหว่างพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทยนี้เอง คือ ความปรารถนาอย่างยิ่งยวดของ คสช.
เพราะนี่คือ “ภักษาหาร” อัน “โอชะ”
ไม่ว่าก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ไม่ว่าก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 การต่อสู้แย่งชิงอำนาจทางการเมืองระหว่าง 2 พรรคใหญ่
คือ เงื่อนไข
เงื่อนไขที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนำมา “ขยาย” แต่งแต้มสร้างสีสันและดึงพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นพวก
ยิ่งก่อนรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 ยิ่งแหลมคม
เพราะว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหมดสภาพ หมดเครดิตในทางการเมือง ส่วนหนึ่งในพรรคประชาธิปัตย์จึงลงมาเล่นเองในนาม “กปปส.”
แล้ว 2 กลุ่มการเมืองนี้ได้อะไร
ความสำเร็จมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือ สามารถปูทางและสร้างเงื่อนไขให้สามารถก่อรัฐประหารได้อย่างราบรื่น
แล้วผลก็อย่างที่เห็นกัน ณ วันนี้
เป็นความจริงที่ตลอด 1 ทศวรรษเป็นต้นมา ไม่ว่าพรรคไทยรักไทย ไม่ว่าพรรคพลังประชาชน ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย ล้วนตกเป็นเป้าหมาย
ตอน “คมช.” อาจยังถือพรรคประชาธิปัตย์เป็นพันธมิตร
เห็นได้จากแผนบันได 4 ขั้นของ คมช. ตลอดจนรัฐธรรมนูญยังเอื้ออำนวยให้พรรคประชาธิปัตย์และบางส่วนที่แยกตัวออกจากพรรคไทยรักไทยอยู่บ้าง
และทำให้สำเร็จได้ในเดือนธันวาคม 2551
แต่พอมาถึงรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 พรรคประชาธิปัตย์ก็หาได้รับการหนุนเสริมเหมือนกับเมื่อปี 2549 ไม่
ยิ่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ปรากฏออกมายิ่งชัด
ชัดว่า คสช.จะเล่นบท “กินรวบ” มิใช่ “กินแบ่ง” เพราะเป้าหมายอย่างแท้จริงก็คือ ต้องการให้ทุก
พรรคการเมืองอ่อนแอปวกเปียก กลายเป็นพรรคขนาดกลางถ้วนหน้า
วันนี้ข้อเรียกร้องให้จับมือกันอาจไม่เกิดประโยชน์
แต่พลันที่เข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง พลันที่ฤทธิ์เดชจากรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกเริ่มขยายผลก็ต้องมาลันดูแก มาแลดูกัน
ข้อเสนออันมาจาก นายพิชัย รัตตกุล จึงเป็นข้อเสนอในทางยุทธศาสตร์ พลันที่ได้รับการขยายโดย นายจาตุรนต์ ฉายแสง และ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ
ก็เริ่มมีสีสันมากขึ้น
ทุกคนอาจยังรู้สึกว่า “เพ้อฝัน” หลายคนอาจมองไม่เห็นความเป็นไปได้ แต่ในแต่ละสถานการณ์นั่นแหละจะค่อยๆ ให้คำตอบ
คำตอบว่าเป็น “ความใฝ่ฝัน” มิใช่ “เพ้อฝัน”