จากกรณีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร หรือศรีบุญหอม อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 129 หมู่ 5 บ้านม่วงไข่ ต.ด่านม่วงคำ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร อดีตข้าราชการครูใน จ.สกลนคร และนายสุริยา หรือครูอ๋อง นวนเจริญ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 หมู่ 1 ต.คำชะอี อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.มุกดาหาร ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของครูจอมทรัพย์ ผู้ต้องหาที่ถูกศาลจังหวัดนครพนมอนุมัติหมายจับ เลขที่ 218/60 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ในข้อหาร่วมกันนำสืบ หรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จต่อศาล และซ่องโจร ขณะนี้ทั้งสองคนถูกฝากขังผัดแรกอยู่ในเรือนจำกลางจังหวัดนครพนม
ซึ่งหลังเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาในคดีครูจอมทรัพย์เพิ่มเติมอีก 5 คน ประกอบด้วย 1.นางวาสนา เพชรทอง หลานครูจอมทรัพย์ ผู้ที่ออกมาร้องขอความเป็นธรรมให้กับครูจอมทรัพย์ขณะที่ต้องขังอยู่ในเรือนจำ 2.นายธนัท สุขตลอดปี ทนายความของครูจอมทรัพย์ ที่คอยแนะนำข้อต่อสู้ และเคยปรากฏตัวคู่กับครูอ๋อง หรือนายสุริยา นวนเจริญ เมื่อครั้งเดินทางมาแจ้งความที่ สภ.ต่างๆ ใน จ.นครพนม 3.นายเสน่ห์ สุพรรณ 4.นางรจนา จันทรัตน์ และ 5.นางทองเรศ วงศ์ศรีชา ที่อ้างตัวเป็นประจักษ์พยานเห็นเหตุการณ์ช่วงที่เกิดเหตุมีรถยนต์ชนนายเหลือ พ่อบำรุง ถึงแก่ความตาย ทั้งนี้ นางรจนา และนายเสน่ห์ เป็นเพื่อนสนิทของนางจอมทรัพย์ ที่คอยวิ่งเต้นช่วยเหลือครูจอมทรัพย์เมื่อครั้งต้องโทษถูกคุมขังในเรือนจำฯ โดยมีบุคคลเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว 2 คน คือ นางทองเรศ วงศ์ศรีชา ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาเบิกความเท็จ ได้รับการประกันตัวออกไปแล้ว และ 2.นายเสน่ห์ สุพรรณ เพื่อนร่วมรุ่นของนางจอมทรัพย์ และครูอ๋อง เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อกล่าวหา ร่วมกันนำสืบ และแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ และซ่องโจร โดยนายเสน่ห์ใช้ตำแหน่งข้าราชการครูประกันตัวเอง ซึ่งศาลจังหวัดนครพนมอนุญาต ส่วนนายนิรันดร์ แสนเมืองโคตร สามีของนางจอมทรัพย์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายเรียกชุดแรก ร่วมกับครูอ๋อง ครูจอมทรัพย์ นายสับ วาปี นางจันทร์ วาปี และนางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ ที่ถูกแจ้งข้อหาไปก่อนหน้านี้แล้ว ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ และประกันตัวออก
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม นางรจนา จันทรัตน์ ซึ่งได้รับฉายาจากคนในโลกโซเซียลว่าเป็น “นักสืบหญิง” อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 หมู่ 4 บ้านโนนสามัคคี ต.โนนบุรี อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ข้าราชการครูบำนาญ แห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ และเป็นเพื่อนสนิทอีกคนของครูจอมทรัพย์ ที่เรียนหนังสือมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก เดินทางมายัง บก.ภ.จว.นครพนม พร้อมญาติ และทนายความ เพื่อมาพบเจ้าหน้าที่ตามหมายเรียก มี พ.ต.ท.สมพงษ์ แรงรอบ พ.ต.ท.กฤษดา สุวรรณกูล และ ร.ต.อ.(หญิง)จุฬารัตน์ อาจภิรมย์ คณะทีมพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีนางจอมทรัพย์ ได้นำตัวทั้งหมดขึ้นไปยังชั้น 4 เพื่อสอบสวนปากคำ พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันนำสืบ และแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ เบิกความเท็จ และซ่องโจร รวม 3 ข้อหา ซึ่งนางรจนาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าพูดไปตามที่ครูอ๋องกับครูจอมทรัพย์เล่าให้ฟังเท่านั้น
นายชิตนล ไชยสงเมือง ทนายความของนางรจนา กล่าวว่า ได้รับการติดต่อจากลูกความเมื่อ 3-4 วันมานี้ เพื่อจะปรึกษาด้านคดี ต้องดูก่อนว่าพนักงานสอบสวนจะตั้งข้อกล่าวหาอะไร จึงจะหาช่องทางต่อสู้กันต่อไปในศาล ระหว่างนี้ยังไม่ทราบว่าลูกความเข้าไปพัวพันกับคดีในตอนไหน ต้องรอพนักงานสอบสวนสอบปากคำเป็นข้อๆ เบื้องต้นทราบเพียงว่าลูกความไปในฐานะเพื่อนสนิท ไม่มีส่วนรู้เห็นกรณีสร้างพยานเท็จแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังสอบสวน และให้ปากคำเสร็จเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจทำหนังสือขอฝากขังผัดแรกต่อศาลจังหวัดนครพนม โดยนางรจนาใช้เงินสด 100,000 บาท เพื่อประกันตัว และศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ส่วนในวันที่ 8 ธันวาคม นางวาสนา หลานสาวของครูจอมทรัพย์จะต้องเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตามหมายเรียก
