คดีฉาวของ ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน โปรดิวเซอร์ผู้ทรงอิทธิพลในวงการบันเทิงฮอลลีวู้ด ที่มีผู้หญิงร่วม 100 คนออกมาแฉว่าเคยถูกโปรดิวเซอร์ดัง ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท เดอะ ไวน์สตีน วัย 65 ปี ลวนลาม ล่วงเกิน หรือถึงขั้นข่มขืน ได้ก่อกระแส จุดประเด็นให้สังคมตื่นตัว หันมาสนใจปัญหาล่วงละเมิดทางเพศที่ผู้หญิงตกเป็นเหยื่อที่ถูกกระทำมานมนาน และเป็นปัญหาที่มีอยู่แทบจะทุกวงการ
ล่าสุดก็มีข่าวว่า ในปีหน้าที่สวีเดนจะมีการจัดเทศกาลดนตรีใหญ่ที่ปลอดผู้ชาย หรือพูดง่ายๆ ก็คือ อนุญาตให้ผู้หญิงเท่านั้นมีสิทธิเข้าไปร่วมดื่มด่ำความสุขกับเสียงดนตรีเสียงเพลงภายในงานได้อย่างไม่ต้องกลัวว่าจะถูกลวนลามหรือถูกข่มขืน
สำนักข่าวเอเอฟพีอ้าง เอ็มม่า นิคแคร์ โต้โผใหญ่ ผู้จัดงานประกาศเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า เธอจะจัดงานเทศกาลดนตรีชื่อว่า สเตตเมนต์ (Statement) ซึ่งจะมีขึ้นเป็นเวลา 2 วันในช่วงซัมเมอร์ปี 2561 ที่เมืองโกเธนเบิร์ก ประเทศสวีเดน โดยงานนี้จะมีเพียง “ผู้หญิง” เท่านั้นที่มีสิทธิเข้างาน และสามารถปลดปล่อยอารมณ์ เริงร่ากับเสียงดนตรีได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาทำอะไร
“เรากำลังรวมพลังกันเพื่อประกาศเจตนารมณ์ในการต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศ ด้วยการสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ผู้หญิง ให้คนไร้เพศและคนข้ามเพศที่ต้องการมาร่วมงานเทศกาลดนตรีได้รู้สึกถึงความปลอดภัยเวลาอยู่ในงาน เราไม่รู้สึกว่านี่เป็นการร้องขอมากเกินไป” เอ็มม่า ผู้จัดงาน ซึ่งยังมีอาชีพเป็นนักแสดงตลกและนักจัดรายการวิทยุทวีตข้อความดังกล่าวนี้
ในรายงานข่าวของเอเอฟพี ระบุถึงที่มาที่ทำให้เอ็มม่าเกิดไอเดียคิดอยากจัดเทศกาลดนตรีที่ปลอดผู้ชายขึ้นมาว่า มีสาเหตุมาจากการที่ทีมผู้จัดงานเทศกาลดนตรี Bravalla ประกาศยกเลิกการจัดงานเทศกาลดนตรี Bravalla ในปีหน้า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุข่มขืน 4 ราย และมีเหยื่อถูกล่วงละเมิดทางเพศ 23 ราย ในงานเทศกาลดนตรี Bravalla เมื่อเดือนกรกฎาคม
ขณะที่ย้อนไปเมื่อปี 2559 สื่อท้องถิ่นของสวีเดนก็รายงานว่ามีผู้หญิง 5 คนถูกข่มขืนภายในงานเทศกาลดนตรีดังกล่าว ซึ่งเป็นงานเทศกาลดนตรีใหญ่ที่สุดในสวีเดนที่จัดขึ้นทุกปี รวมเวลา 4 วัน และมีผู้คนเข้าร่วมงานปีละหลายพันคน
ในเว็บไซต์ของเทศกาลดนตรีสเตตเมนต์ยังได้พูดถึงที่มาของเทศกาลดนตรีนี้ว่า “ที่จริงพวกเรามีความหวังว่า เทศกาลดนตรีอย่างสเตตเมนต์ซึ่งเป็นเทศกาลดนตรีที่ปลอดจากการล่วงละเมิดทางเพศ ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นต้องมี แต่น่าเศร้าใจที่สิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมได้พิสูจน์ให้เห็นกันว่า นี่คือสิ่งที่จำเป็นและก็เป็นเหตุผลที่ทำไมเราจึงได้จัดเทศกาลดนตรีแบบนี้ขึ้น”
