น้ำพระทัย ‘พระองค์ภา’ ประทานโอกาสเด็กเยาวชน

เพราะเชื่อว่าการให้โอกาสจะนำความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้เกิดขึ้นได้ เราจึงต้องมาร่วมกันให้โอกาส ซึ่งเป็นที่มาของงานนิทรรศการ “ณภาฯ เดอะซีเคร็ท ซีนส์” (NABHA: The Secret Scenes) จัดโดย มูลนิธิณภาฯในพระดำริ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

โอกาสนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ประทานพระดำรัสเปิดนิทรรศการว่า โอกาสเป็นสิ่งสำคัญที่จะขับเคลื่อนให้เกิดหนทางแห่งการเปลี่ยนแปลงสู่สังคมที่ดีขึ้น เป็นสิ่งที่ส่งผลให้บุคคลได้เริ่มต้นใหม่ ได้แสดงศักยภาพ หรือเป็นสิ่งที่บุคคลจะได้แก้ไขพัฒนาและปรับปรุงในส่วนที่เคยผิดพลาดให้ถูกต้อง ทั้งนี้ เด็กและเยาวชนถือเป็นประชากรคนรุ่นใหม่ ที่มีอิทธิพลต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรม ความเจริญก้าวหน้า ปัญหาของเด็กและเยาวชนเป็นปัญหาหลักที่ต้องได้รับการแก้ไข ซึ่งเป็นการดีที่กีฬาได้เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาและแก้ไขปัญหา เพราะนอกจากกีฬาจะทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังเป็นการฝึกให้บุคคลมีความเข้มแข็ง สามัคคี ทั้งยังส่งผลดีต่อจิตใจทำให้มีใจแน่วแน่ หนักแน่น รู้จักแพ้ รู้จักชนะ รู้จักอภัย

“นับว่าเป็นเรื่องน่ายินดีที่เด็กและเยาวชนได้มีโอกาสในการแสดงศักยภาพในวันนี้ นอกจากความตั้งใจมุ่งมั่นฝึกฝนแล้ว การดำเนินชีวิตก็เป็นสิ่งสำคัญควบคู่กัน ต้องเรียนรู้ที่จะข่มใจไม่กระทำสิ่งใดที่รู้สึกว่าผิด ต้องบากบั่นที่จะกระทำในสิ่งที่เป็นความดี ความถูกต้อง ถ้าหากสามารถทำได้ ก็จะเติบโตเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ พัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าได้”

 

Advertisement

 

นายเอกภพ เดชเกรียงไกรสร รองประธานมูลนิธิณภาฯ กล่าวภายหลังรับเสด็จว่า งานนี้จัดขึ้นเพื่อต้องการให้ประชาชน รู้ที่มาที่ไปพระกรณียกิจของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา แม้บางคนอาจรู้จักมูลนิธิณภาฯ รู้จักสำนักงานโครงการส่วนพระองค์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และสโมสรกีฬา BBG บ้างแล้ว แต่ประชาชนทั่วไปอาจไม่ทราบความเป็นมาก่อนหน้านั้น ว่ากว่าจะมาเป็น 3 โครงการในพระดำริในวันนี้ ต้องย้อนไปเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ในห้องทำงานส่วนพระองค์ และพระสหาย ขนาด 3×4 เมตร ย่านถนนหลานหลวง ที่มีคอมพิวเตอร์ 2 ตัว พรินเตอร์ 1 ตัว เพื่ออบรมมอบวิชาชีพให้กับคนด้อยโอกาส ซึ่งช่วงนั้นเรามีโครงการสอนอาชีพกว่า 40 โครงการ มีผู้ร่วมกว่า 1,200 คน แต่เมื่อดำเนินไปก็พบว่าการอบรมวิชาชีพอย่างเดียว ไม่ทำให้ผู้ด้อยโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เพราะเขายังขาดแคลนปัจจัยพื้นฐาน จึงมีพระดำริตั้งมูลนิธิณภาฯ ในปี 2557 เพื่อรับคนด้อยโอกาสเหล่านี้มาทำงาน พร้อมดูแลปัจจัยพื้นฐาน และสวัสดิการให้พร้อม เพื่อต้องการให้เขาดำรงชีวิตได้ และออกไปช่วยเหลือผู้อื่น

Advertisement

นายเอกภพเล่าว่า ส่วนโครงการส่วนพระองค์ฯ ทำหน้าที่เป็นคณะทำงานที่คอยสนองพระดำริและพระประสงค์ของพระองค์ อย่างโครงการเศรษฐกิจพอเพียงในถิ่นห่างไกล ตลอดจนการทำนุบำรุงศาสนาของพระองค์ ขณะที่สโมสรกีฬา BBG นั้น เกิดจากการที่พระองค์เสด็จไปทรงปิงปอง และทรงทราบว่าเยาวชนสนใจกีฬาชนิดนี้น้อยลง จึงทรงนึกถึงเด็กๆ ในสถานพินิจที่มีโอกาสจำกัด และทรงเห็นว่าปิงปองน่าจะเหมาะกับพวกเขา จึงทรงเริ่มโครงการยังก์ เทเบิล เทนนิส เวย์ ออฟ เชนจ์ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนเหล่านี้เข้าสู่เส้นทางกีฬาอาชีพ แต่ก็พบว่าเมื่อพวกเขาจะออกจากสถานพินิจแล้ว ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้พวกเขาไปต่อไม่ได้อยู่ดี จึงกำเนิดบ้านกีฬา BBG ขึ้นเพื่อรับเด็กๆ เหล่านี้อยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว ให้เรียนหนังสือและร่วมฝึกฝนเป็นนักกีฬาอย่างจริงจัง ภายหลังยังได้ขยายโครงการให้ครอบคลุมถึงเด็กกลุ่มอื่น เช่น กลุ่มเด็กในภาวะเสี่ยง กลุ่มเด็กที่ถูกกระทำ กลุ่มเด็กในสถานสงเคราะห์ เป็นต้น และเพิ่มกีฬาอื่นๆ เข้ามาด้วย เมื่อมีเด็กๆ มากขึ้น พระองค์จึงมีพระดำริให้จัดตั้งเป็นสโมสร BBG เพื่อส่งเสริมให้เด็กๆ ได้ออกไปแข่งขันเป็นนักกีฬาอาชีพในระดับประเทศและโลก

“พระองค์เสด็จมาทอดพระเนตรโครงการและเด็กในวันนี้ ทรงดีพระทัยมาก รับสั่งว่า เด็กของพระองค์ดีขึ้นเยอะ จากตอนแรกที่มาบางคนสภาพไม่ใช่อย่างนี้ แต่วันนี้พวกเขามีความมั่นใจ แววตาดูสู้ ไม่ยอมแพ้ และน่าจะไปได้ดี พระองค์ตรัสว่ารู้สึกชื่นใจ ทั้งนี้ ทั้ง 3 โครงการพระดำริเกิดขึ้นจากห้องทำงาน 4×3 เมตร ที่ไม่ได้มีอะไรมาก ก็สะท้อนว่า เราไม่จำเป็นต้องมีอะไรมาก ไม่จำเป็นต้องพร้อมถึงจะให้โอกาสได้ เราเชื่อมาอย่างนั้น” นายเอกภพกล่าว

น้ำพระทัยพระองค์ภา

 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล และภรรยา
ห้องทำงานขนาด 3×4 เมตร(จำลอง)
เอกภพ เดชเกรียงไกรสร
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image