“ราชันชุดขาว” รีล มาดริด แชมป์เก่า 2 สมัย ศึกฟุตบอล “ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ” เกือบพลาดท่าในรอบรองชนะเลิศ หรือเกมแรกที่ลงเล่น แต่ยังประคองตัวเข้ารอบชิงชนะเลิศ หลังแซงชนะเจ้าถิ่น อัล จาซีรา 2-1 ในรอบตัดเชือก ที่กรุงอาบู ดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม
โดยรายการนี้ เป็นศึกที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เริ่มจัดขึ้นเองตั้งแต่ปี 2000 เพื่อแข่งกับรายการ “ชิงแชมป์สโมสรโลก” ก่อนทัวร์นาเมนต์หลังจะยกเลิกการแข่งขันปี 2004 ส่วนเกมนี้ อัล จาซีรา ที่ได้สิทธิเล่นในฐานะตัวแทนเจ้าภาพเป็นฝ่ายนำก่อน 1-0 จากโรมารินโญ่ ท้ายครึ่งแรก
แต่ยอดทีมจากสเปนซึ่งเคยได้แชมป์สโมสรโลก 3 ครั้ง พลิกกลับมาคว้าชัยด้วย 2 ประตูจากคริสเตียโน่ โรนัลโด้ นาที 53 และแกเร็ธ เบล ตัวสำรองนาที 81 ส่งผลให้รีล มาดริด ผ่านเข้าชิงกับเกรมิโอ ตัวแทนจากทวีปอเมริกาใต้ และบราซิล ในวันที่ 16 ธันวาคม
จบเกม ซีเนอดีน ซีดาน อดีตตำนานนักเตะของทีม ที่ผันตัวเป็นกุนซือเมื่อต้นปี 2016 แต่สามารถคุมทีมได้แชมป์รายการสำคัญถึง 7 ครั้งไปแล้ว แถม 3 ในนั้นเป็นถึงแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย และแชมป์ลีกลาลีก้า สเปน ครั้งแรกในรอบครึ่งทศวรรษยืนยันว่าทีมของเขาสมควรได้เข้าชิงแล้ว แม้จะเอาชนะทีมต่ำชั้นกว่าอย่างอัล จาซีรา แบบหืดจับก็ตาม
แม้ซีดานจะยอมรับว่ามาดริดยังไม่ลงล็อกในครึ่งแรก โดยเฉพาะการทำประตูทั้งที่มีจังหวะเข้าทำอย่างมากมาย แต่สิ่งที่ยอดเยี่ยมของวงการฟุตบอล คือการมีโอกาสแก้ตัวอีก 45 นาทีหลัง และทำให้เราเปลี่ยนผลการแข่งขันได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม ซีดานทำทีมราชันชุดขาวได้ไม่ดีในเกมลีกแดน “กระทิงดุ” ทั้งที่เป็นแชมป์เก่า หลังโดนคู่แค้นตลอดกาลบาร์เซโลน่า และเป็นจ่าฝูงตารางคะแนน หนีห่างกระจุยกระจายถึง 8 แต้ม ส่วนเกมยุโรปยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่เข้ารอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้ายได้ก็จริง ทว่าเป็นแค่รองแชมป์กลุ่ม
