กฟผ. คว้ารางวัลดีเด่น รายงานความยั่งยืน 4 ปีซ้อน

กฟผ. คว้ารางวัลดีเด่น รายงานความยั่งยืน 4 ปีซ้อน กฟผ. คว้ารางวัลรายงานความยั่งยืน ระดัับดีเด่น ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 รักษามาตรฐานองค์กรที่เปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานอย่างละเอียดด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มเพื่อมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

วันนี้ (14 ธันวาคม 2560) นายสืบพงษ์ บูรณศิรินทร์ รองผู้ว่าการกิจการสังคม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้แทน กฟผ. เข้ารับรางวัลรายงานความยั่งยืน ระดับดีเด่น ประจำปี 2560 (Sustainability Report Award 2016) จากนางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล นายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย เป็นผู้มอบรางวัล จัดโดย สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และสถาบันไทยพัฒน์ ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กรุงเทพฯ

นายสืบพงษ์ บูรณศิรินทร์ กล่าวว่า การจัดทำรายงานเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ของ กฟผ. เป็นการจัดทำตามแนวทางขององค์การแห่งความริเริ่มว่าด้วยการรายงานสากล หรือ GRI (Global Reporting Initiative) โดย\ยึดกรอบของการเปิดเผยข้อมูลแบบละเอียดเกี่ยวกับกลยุทธ์การดำเนินงาน แนวทางการบริหารจัดการ และผลการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ที่สะท้อนทั้งทางบวกและทางลบเพื่อมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าและดูแลสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าและระบบส่ง ตลอดจนการดูแลสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงานของผู้ปฏิบัติงานและลูกจ้างบริษัทผู้รับเหมา โดยมีบริษัท ลอยด์ส รีจิสเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นหน่วยงานภายนอก (Thrid Party) รับรองความเชื่อมั่นของเนื้อหารายงานในภาพรวม

Advertisement

“กฟผ. ได้รับรางวัลดีเด่น ในโครงการประกวดรายงานความยั่งยืนติดต่อกันเป็นปีที่ 4 ตั้งแต่ปี 2557 – 2560 โดยเตรียมยกระดับรายงานตามมาตรฐาน GRI G4 จากระดับ Comprehensive สู่ระดับ Standards ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่า การดำเนินงานของ กฟผ. ทุกมิติคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและการดูแลสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการสร้างความเติบโตขององค์กรอย่างยั่งยืน” นายสืบพงษ์ กล่าว

สำหรับการประกวดรายงานความยั่งยืนจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนทั้งองค์กรภาครัฐและเอกชนเผยแพร่ข้อมูล ESG ซึ่งย่อมาจาก Environmental, Social, and Governanceอันเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มผู้ลงทุนในแวดวงตลาดทุน และประชาชนทั่วไป เพื่อใช้ประเมินการดำเนินงานของบริษัท และทำให้ล่วงรู้ถึงผลประกอบการในอนาคตจากบทบาทของบริษัทที่มีต่อเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) และการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainability) ใน 3 ด้าน คือ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อีกทั้งรายงานความยั่งยืนยังช่วยพัฒนาศักยภาพของตลาดทุนไทยให้เทียบเท่ากับตลาดทุนชั้นนำ อันจะนำไปสู่การยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งในภูมิภาคและในระดับสากล

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image