จากกรณีที่ปรากฏภาพ น.ส.นรนนท์ นรคามินทร์ อายุ 44 ปี มัคคุเทศก์ชาวไทย ขึ้นไปถ่ายภาพกับนักท่องเที่ยวจีนโดยใช้เท้าเหยียบฐานพระปรางค์ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารในโลกโซเชียล จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 16 ธันวาคม ที่วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท. และ พ.ต.ท.ชิงชัย ภูสำเภา สว.ส.ทท.3 กก.1 บก.ทท.1 นำตัว น.ส.นรนนท์ ผู้กระทำการดังกล่าวเข้ากราบขอขมาบริเวณพระปรางค์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
โดย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กวดขันเรื่องความปลอดภัยและการสร้างภาพลักษณ์ ด้านการท่องเที่ยวตามขนบธรรมเนียมและประเพณีของไทย โดยคำนึงถึงวิถีการปฏิบัติในสถานที่โบราณสถานและโบราณวัตถุอย่างถูกต้อง บช.ทท.ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์และติดตามดำเนินการกับกลุ่มบุคคล หรือผู้ที่กระทำการอันไม่สมควร เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
“ต่อมาเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม มีข่าวการเผยแพร่ภาพหญิงไม่ทราบชื่อจำนวน 2 คน แสดงพฤติกรรม ไม่เหมาะสม โดยผู้หญิง 1 คนในภาพใช้เท้าเหยียบบริเวณพระปรางค์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ในลักษณะปีนป่ายโบราณสถาน แล้วถ่ายภาพลงโซเชียลมีเดีย โดยผู้โพสต์ในเฟซบุ๊กใช้ชื่อว่า “นางฟ้าใจร้าย กูไม่ใช่แม่พระ” จากนั้นมีการเผยแพร่ภาพดังกล่าวตามสื่อสังคมออนไลน์ ส่งผลให้เกิดความเสียหายในภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงสืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับบุคคลในภาพถ่ายที่กระทำการไม่เหมาะสมดังกล่าว ทราบว่าภาพของบุคคลผู้ที่ใช้เท้าเหยียบพระปรางค์ คือ น.ส.นรนนท์ จึงเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาและให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลในภาพดังกล่าวจริง จึงนำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางกอกใหญ่ ดำเนินคดี” รอง ผบช.ทท.กล่าว
รอง ผบช.ทท.กล่าวต่อว่า วันนี้จะนำตัว น.ส.นรนนท์ส่งพนักงานอัยการฟ้องศาลจังหวัดตลิ่งชัน ในความผิดฐานปีนป่ายโบราณสถานหรือกระทำการใดๆ หรือก่อให้เกิดความสกปรกและไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยต่อโบราณสถาน ตาม พ.ร.บ.โบราณวัตถุ โบราณสถานศิลปวัตถุและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 มาตรา 13, 34 และกฎกระทรวงฉบับที่ 1 (พ.ศ.2535) ลงวันที่ 26 มิ.ย.2539” อัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับการดำเนินคดีในครั้งนี้เป็นการสร้างมาตรฐานในการบังคับใช้กฎหมายในการดูแลโบราณสถานและนักท่องเที่ยว เนื่องจากปัจจุบันในประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากกว่า 34 ล้านคนเข้ามาท่องเที่ยว จึงต้องคำนึงถึงการธำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันดีงาม นอกจากนี้ยังมีการเน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ให้เข้มงวดกับมัคคุเทศก์ในเรื่องการแต่งกายให้ถูกต้องเหมาะสมตามสถานที่เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี
ทั้งนี้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวถึงการดูแลความปลอดภัยในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ว่า บช.ทท.มีความพร้อมในการดูแลนักท่องเที่ยวทั่วประเทศ โดยจัดวางกำลังในทุกจุดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลัก เพื่อให้เกิดความปลอดภัย
