เปิดจดหมาย!! ครูทั่วประเทศทำถึง ‘บิ๊กตู่-ปธ.องคมนตรี-นพ.จรัส-หมอธี-สื่อ’ จี้ ‘ศธจ.’คืนอำนาจ ม.53

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นายรัชชัยย์ ศรสุวรรณ นายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย(ส.บ.ม.ท.) ได้ประชุมหารือสมาชิกส.บ.ม.ท.เพื่อกำหนดท่าทีเรียกร้องให้ศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.) คืนอำนาจตามมาตรา 53(3)และ(4)แห่งพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้แก่ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(ผอ.สพท.)และผู้อำนวยการโรงเรียน โดยหนึ่งในมาตรการการคือการให้ครูโรงเรียนมัธยมศึกษาทั่วประเทศ ทำจดหมายถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานกรรมการคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา นพ.แพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) และสื่อนั้น ในส่วนของนสพ.มติชน ปรากฏว่าได้รับจดหมายดังกล่าวแล้ว โดยมีสาระ ดังนี้

ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินการให้มีการปฏิรูปการศึกษาโดยได้มีการสั่งการให้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการบริหารจัดการศึกษา ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค นั้น ข้าพเจ้าได้ศึกษาแนวทางการปฏิรูปการศึกษาโดยการเปลี่ยนแปลงในด้านโครงสร้างต่างๆและได้สดับตรับฟังจากคณะผู้บริหารโรงเรียนและคณะครูทั้งประเทศแล้ว เห็นว่า การดำเนินการดังกล่าวของกระทรวงศึกษาธิการยังไปไม่ถึงนักเรียนและยังอาจก่อให้เกิดปัญหาต่างๆตามมาอันจะเป็นผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อการศึกษาของชาติบ้านเมือง

1. ในอดีตที่ผ่านมาการบริหารจัดการศึกษาด้านประถมศึกษา ดำเนินการโดยมีสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ รับผิดชอบการจัดการศึกษาในระดับประถมศึกษา ส่วนการจัดการศึกษาด้านมัธยมศึกษาดำเนินการโดยกรมสามัญศึกษา ผลการจัดการศึกษาดังกล่าวเป็นไปด้วยดีมีคุณภาพ ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาในเรื่องอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้มีน้อยมาก เมื่อเทียบกับการจัดการศึกษาในยุคปัจจุบัน ส่วนคุณภาพผู้เรียนด้านการมัธยมศึกษาก็เป็นไปด้วยดีเป็นไปตามหลักปรัชญาของการจัดการด้านมัธยมศึกษา ทั้งนี้เพราะการจัดการศึกษา ทั้งด้านประถมศึกษาและด้านมัธยมศึกษา ดำเนินการโดยหน่วยงานเฉพาะระดับกรม ที่มีผู้ที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางทั้งทางด้านการจัดการศึกษาระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา ที่สำคัญคือไม่เคยปรากฏข้อมูลทางสังคมว่า ผลการศึกษาทั้งระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษามีความตกต่ำเมื่อเทียบกับผลการศึกษาของประเทศต่างๆ ที่เป็นประเทศเพื่อนบ้าน

2. ในปี พ.ศ. 2542 ได้มีการปฏิรูปการศึกษาทั้งๆที่ไม่ปรากฏข้อมูลปัญหาในเรื่องผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาแต่อย่างใดโดยให้มีการยุบรวมสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติกับกรมสามัญศึกษา เข้าด้วยกันและตั้งหน่วยงานขึ้นใหม่เป็นสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และให้มีการบริหารจัดการในรูปแบบเขตพื้นที่การศึกษา โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เป็นผู้รับผิดชอบการจัดการศึกษาของสถานศึกษาทั้งระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่ ส่งผลให้ผลการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตกต่ำอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเพราะผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษาส่วนใหญ่ในขณะนั้นไม่มีความรู้ความเข้าใจ ขาดประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการศึกษาในระดับมัธยมศึกษา และวัฒนธรรมองค์กรที่แตกต่างกัน ทำให้ส่งผลกระทบอย่างยิ่งในการบริหารจัดการศึกษา ผู้บริหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่ในสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานส่วนใหญ่ ก็เป็นผู้ที่ไม่มีความรู้ความชำนาญและขาดประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการการศึกษาระดับมัธยมศึกษา

Advertisement

3. ในปี พ.ศ. 2553 ได้มีการดำเนินการให้มีการแยกเขตพื้นที่การศึกษาออกเป็น เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผลการศึกษาที่ดีขึ้นเพราะ
3.1 ไม่ได้กำหนดให้มีเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาให้ครบทุกจังหวัด มีการกำหนดเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเพียง 42 เขต บางเขตพื้นที่การศึกษาต้องรับผิดชอบจัดการศึกษาระดับมัธยมศึกษาถึง 4 จังหวัด เช่น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 10 ต้องรับผิดชอบการจัดการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสมุทรสงครามและจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งมีความห่างไกลกันในแต่ละจังหวัดมากส่งผลให้มีการดูแลไม่ทั่วถึง
3.2 ไม่มีผู้บริหารระดับสูงในสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่มีความรู้ ความเข้าใจและมีประสบการณ์ด้านการจัดการศึกษามัธยมศึกษาโดยเฉพาะ ดังนั้นจึงส่งผลกระทบในเรื่องการกำหนดนโยบายหรือกำหนดกฎหมาย ระเบียบต่างๆ ที่เกื้อกูลให้การจัดการศึกษาระดับมัธยมศึกษาเป็นไปอย่างมีคุณภาพ
3.3 มีการยุบหน่วยศึกษานิเทศก์สายมัธยมศึกษา ส่งผลให้ไม่มีบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญในเรื่องการวิเคราะห์หลักสูตร การพัฒนาบุคลากรและเทคนิควิธีสอนใหม่ๆที่จะถ่ายทอดให้กับสถานศึกษา

4. ปัจจุบันได้มีการปฏิรูปการศึกษาโดยใช้แนวทาง Single Command โดยใช้อำนาจสั่งการโดยตรงจากส่วนกลาง ส่งผลให้
4.1 มีการตัดอำนาจการบริหารบุคคลของข้าราชการสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาไปเป็นอำนาจของศึกษาธิการจังหวัดซึ่งไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาตามสายงานและเป็นข้าราชการต่างกรมมีการสั่งงานข้ามกรมฯ ซึ่งประเพณีนี้ไม่มีกระทรวงทบวงกรมไหนเขาทำกัน หากจะเปรียบเทียบก็จะเป็นเสมือนให้ในจังหวัดหนึ่งๆมีนายทหารเรือยศนาวาเอก เป็นผู้บังคับบัญชาของนายทหารบกยศพันโท อยากทราบว่าวงการทหารยอมรับกันได้หรือไม่ วัฒนธรรมองค์กรไปกันได้หรือไม่ มีความเชื่อมั่นในความรู้ความสามารถระหว่างกันหรือไม่ ความแตกแยกจะเกิดขึ้นอย่างเป็นวงกว้างหรือไม่ และความล้มเหลวที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตจะมีผู้รับผิดชอบไหวหรือไม่
4.2 ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เป็นผู้บังคับบัญชาของข้าราชการครูในสังกัดแต่ไม่มีอำนาจในการสั่งการและการบริหารจัดการเนื่องจากอำนาจดังกล่าวถูกโยกไปเป็นอำนาจของศึกษาธิการจังหวัดซึ่งเป็นข้าราชการต่างกรม ส่งผลให้ข้าราชการครูไม่ให้ความร่วมมือกับผู้บังคับบัญชาของตนเอง เพราะไม่มีอำนาจในการให้คุณให้โทษ
4.3 การตัดอำนาจการบังคับบัญชาดังกล่าวเป็นการก่อให้เกิดความแตกแยกในวงการศึกษาอย่างเป็นวงกว้างอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนซึ่งถือว่าเป็นอันตรายต่อการศึกษาและความมั่นคงของชาติเป็นอย่างยิ่ง
4.4 การปรับโครงสร้างใหม่ส่งผลทำให้เกิดข้าราชการระดับ 10 (เทียบเท่าอธิบดี) ขึ้นอีก 18 คน ข้าราชการระดับ 9 อีก 95 คน ต้องจัดสรรงบประมาณเรื่องค่าตอบแทนพิเศษ เงินประจำตำแหน่ง เงินค่ารถประจำตำแหน่ง อีกมากมาย โดยไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรต่อโรงเรียนหรือนักเรียนเลย

4.5 มีการแย่งชิงข้าราชการและทรัพย์สินของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาให้ไปเป็นข้าราชการและทรัพย์สินของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด หรือสำนักงานศึกษาธิการภาค ซึ่งเป็นการสร้างความลำบากใจอย่างยิ่งให้กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาส่งผลให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาขาดแคลนบุคลากร และทรัพยากรในการบริหารจัดการ
4.6 ผู้ว่าราชการจังหวัดหลายจังหวัดอาศัยศึกษาธิการจังหวัดเป็นเครื่องมือในการสั่งการให้ครูและนักเรียนไปทำงานที่เป็นภารกิจของจังหวัด ทำให้เกิดผลกระทบอย่างมากต่อการจัดการศึกษา
4.7 ข้าราชการครูทั้งประเทศไม่ให้การยอมรับศึกษาธิการจังหวัด/ศึกษาธิการภาคเพราะถือว่าเป็นข้าราชการต่างกรมกองแต่มาใช้อำนาจบังคับบัญชา และที่สำคัญคือยังไม่เห็นฝีไม้ลายมือของศึกษาธิการจังหวัดท่านใดที่แสดงออกมาในเชิงประจักษ์ว่ามีศึกษาธิการจังหวัดแล้วการศึกษาดีขึ้น
4.8 การมีศึกษาธิการจังหวัด เป็นการเพิ่มขั้นตอนในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อการศึกษา ส่งผลทำให้การปฏิบัติงานที่สนับสนุนการศึกษาของโรงเรียนเกิดความล่าช้า เกิดความเสียหายต่อการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง ทราบข่าวมาว่าในบางจังหวัดคุณครูไม่ได้รับเงินเดือนมาหลายเดือนแล้ว
4.9 ขณะนี้ข้าราชการครูและประชาชนต่างมองว่าการให้มีศึกษาธิการจังหวัดและศึกษาธิการภาคนั้นเป็นเพียงบันใดในการสนับสนุนคนของผู้มีอำนาจจากส่วนกลางก้าวกระโดดในการปฏิบัติหน้าที่เช่น

ข้าราชการที่เป็นผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ยังคงได้รับวิทยฐานะชำนาญการพิเศษทั้งๆที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเหน็ดเหนื่อยมานานหลายปี แต่บุคคลที่โอนไปปฏิบัติหน้าที่เป็นศึกษาธิการจังหวัด เมื่อเข้าสู่ตำแหน่งก็ได้รับการแต่งตั้งให้มีวิทยฐานะเชี่ยวชาญทันที เป็นการเอาเปรียบอย่างร้ายแรงชนิดที่ไม่เกิดประโยชน์อะไรต่อนักเรียน ที่สำคัญอันเป็นตัวบ่งชี้ว่าตำแหน่งดังกล่าวมีไว้เพียงเป็นสะพานให้คนของผู้มีอำนาจได้เหยียบย่ำเพื่อความก้าวหน้าก็คือศึกษาธิการภาครุ่นแรกที่เพิ่งทำหน้าที่ได้ไม่กี่เดือนยังไม่ได้งานที่มีคุณภาพอย่างเป็นชิ้นเป็นอัน ก็ได้เลื่อนไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ไปเป็นรองเลขาธิการ แล้วเด็กๆ ได้อะไร
4.10 ขอให้จัดสรรอัตรากำลังครูเกษียณอายุราชการกลับคืนสู่โรงเรียนให้หมดพวกข้าพเจ้าขอฟ้องประชาชนว่าขณะนี้มีการแบ่งเอาอัตรากำลังครูที่เกษียณอายุราชการไปให้เป็นอัตรากำลังของเจ้าหน้าที่ในสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด/ศึกษาธิการภาค จำนวนมากมายเป็นจำนวนหลักพันคน การทำเช่นนั้นเป็นการทำร้ายโรงเรียน นักเรียน และทำร้ายระบบการศึกษาอย่างร้ายแรงชนิดที่ไม่มีประเทศที่พัฒนาแล้วประเทศไหนเขาทำกัน สมมติว่าหากกระทรวงสาธารณสุขดึงเอาอัตรากำลังนายแพทย์ที่ควรต้องอยู่โรงพยาบาล ให้ไปประจำในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สักสองพันคน แล้วชาติบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร
4.11 หากมีแนวคิดทางด้านการพัฒนาและยกระดับคุณภาพการศึกษาโดยให้มีศึกษาธิการจังหวัด/ศึกษาธิการภาค นั้น เพราะเหตุใดจึงไม่ให้ศึกษาธิการจังหวัดหรือศึกษาธิการภาค รับผิดชอบในเรื่องการทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาและลงมือปฏิบัติตามแผน ทำไมต้องให้อำนาจการบริหารงานบุคคลไปอยู่ในมือศึกษาธิการจังหวัด ข้อเท็จจริงที่ปรากฏคือการประชุมของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดเกือบทุกจังหวัดจะมีแต่เรื่องบุคคล ไม่มีเรื่องพัฒนา

จากข้อมูลข้อเท็จจริงดังกล่าว พวกข้าพเจ้าจึงขอเรียนเสนอแนะแนวทางการดำเนินการเพื่อให้มีการยกระดับคุณภาพการศึกษาของประเทศ ดังนี้
1. ดำเนินการให้มีการคืนอำนาจการบังคับบัญชาจากศึกษาธิการจังหวัดไปเป็นอำนาจของผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เช่นเดิมและโดยเร็ว
2. ให้ศึกษาธิการภาคและศึกษาธิการจังหวัดทำงานเชิงนโยบายในเรื่องการกำกับติดตามการจัดการศึกษาของจังหวัดต่างๆ ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคล
3. ให้ข้าราชการครูและผู้บริหารสถานศึกษามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการศึกษาในระดับจังหวัดและระดับกรม ทั้งนี้เพราะเป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการศึกษาเป็นอย่างดี
4. ให้มีหน่วยงานระดับกรมในกระทรวงศึกษาธิการมีหน้าที่ในการจัดการศึกษาระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา โดยแยกต่างหากจากกัน ทั้งนี้เพื่อให้เป็นหน่วยงานเฉพาะที่มีบุคลากรที่มีความชำนาญโดยเฉพาะทั้งด้านการจัดการศึกษาระดับประถมศึกษาและการจัดการศึกษาระดับมัธยมศึกษา
5. ให้มีหน่วยศึกษานิเทศก์เฉพาะแยกเป็นหน่วยศึกษานิเทศก์ด้านการประถมศึกษา และหน่วยศึกษานิเทศก์ด้านการมัธยมศึกษาในส่วนกลางโดยให้มีหน้าที่ในเรื่องของการวิเคราะห์และพัฒนาหลักสูตร การพัฒนาบุคลากร การคิดค้นและพัฒนาเทคนิคการสอนแนวใหม่ ฯลฯ
6. ให้มีกฎหมายเฉพาะในเรื่องของการบริหารจัดการศึกษาด้านการประถมศึกษาและด้านการมัธยมศึกษา แยกต่างหากจากกันเพราะการจัดการศึกษาด้านประถมศึกษาและด้านมัธยมศึกษามีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงทั้งในด้านการผลิตและการสร้างบุคลากร การจัดการเรียนการสอน ปรัชญาของการจัดการศึกษา
7. ดำเนินการให้มีเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาครบทุกจังหวัด
8. ให้มีการสำรวจ ศึกษาและปรับขนาดโรงเรียนในด้านจำนวนนักเรียนให้สอดคล้องกับความเป็นจริงในเรื่องของการลดของประชากร
9. กระจายอำนาจสู่สถานศึกษาอย่างแท้จริงโดยให้โรงเรียนเป็นนิติบุคคลโดยแท้ทั้งในด้านวิชาการ ด้านการสรรหาบุคคลให้สอดคล้องกับความต้องการของโรงเรียนและท้องถิ่น และด้านงบประมาณ โดยกำหนดให้มีมาตรการการควบคุมให้เป็นไปตามหลักความชอบด้วยกฎหมาย โปร่งใส ตรวจสอบได้

10. ให้คืนอำนาจการไปราชการต่างจังหวัดของผู้บริหารโรงเรียนและของข้าราชการครูในโรงเรียน ให้เป็นอำนาจของผู้บริหารโรงเรียนโดยให้มีการรายงานการไปราชการนอกเขตจังหวัดต่อผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเดือนเพื่อตรวจสอบความเหมาะสม
11. ให้ดำเนินการให้มีการปรับหลักสูตร ให้สอดคล้องกับสภาพปัจจุบันของประเทศและของนานาประเทศ โดยในบางสาขาวิชาในระดับมัธยมศึกษา ให้นักเรียนได้เรียนรู้เท่าที่จำเป็นต่อการไปศึกษาต่อในสาขาที่ตนเองประสงค์จะศึกษาต่อเท่านั้น ทั้งนี้เพราะทุกวันนี้นักเรียนต้องเรียนในสาขาวิชาที่ไม่มีความจำเป็นต้องไปศึกษาต่อเช่นนักเรียนที่มีความประสงค์จะเรียนต่อทางด้านกฎหมายแต่ก็ต้องเรียนวิชาพื้นฐานด้านฟิสิกส์และเคมีหรือคณิตศาสตร์ในความเข้มข้นเท่ากับนักเรียนที่ประสงค์ที่จะศึกษาต่อทางด้านวิศวกรรมหรือด้านการแพทย์เป็นต้น
12. ให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ในการทดสอบทางการศึกษาเป็นหน่วยงานสังกัดกระทรวงศึกษาธิการทั้งนี้เพื่อจะได้มีข้อมูลที่แท้จริงในการวัดและประเมินคุณภาพการศึกษาของประเทศตามตัวชี้วัดของหลักสูตรอย่างแท้จริง
13. ส่งเสริมให้โรงเรียนทุกโรงเรียนได้ดำเนินจัดการเรียนการสอนและการวัดและประเมินผลที่เน้นการคิดวิเคราะห์ ความเข้าใจในเนื้อหาสาระของโจทก์ที่ซับซ้อน (PISA)
14. ให้ปรับรูปแบบการเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยโดยไม่ยึดโยงกับข้อสอบ O-NET เพราะข้อสอบ O-NET มิได้สอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษาอย่างแท้จริง การรับเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยควรมีการวัดด้านจิตพิสัย พฤติกรรม ตามปรัชญาการจัดการศึกษา เพราะมิฉะนั้นโรงเรียนก็จะมุ่งจัดการเรียนการสอนเพื่อ O-NET จนลืมภารกิจสำคัญในเรื่องของการสร้างนักเรียนให้เป็นคนที่สมบูรณ์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ
15. ขอให้ผู้มีอำนาจยกเลิกความในข้อ 3(6) ที่บัญญัติว่าให้คณะกรรมการขับเคลื่อนมีอำนาจ “สั่งให้ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษา หรือผู้ปฏิบัติงานในตำแหน่งต่างๆในหน่วยงานของกระทรวงศึกษาธิการในระดับภูมิภาคหรือจังหวัด หยุดการปฏิบัติหน้าที่หรือให้พ้นจากตำแหน่ง ในกรณีที่ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษา หรือผู้ปฏิบัติงานผู้ใดถูกสั่งให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่หรือถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งตามวรรคหนึ่ง ให้งดการจ่ายค่าตอบแทนหรือสิทธิ์ประโยชน์ใดๆในตำแหน่งในระหว่างที่ถูกสั่งให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่หรือถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่ได้รับทราบคำสั่ง” ข้าพเจ้าเห็นว่าบทบัญญัติดังกล่าวมิได้กำหนดเหตุผลหรือสาเหตุที่จะต้องมีการสั่งลงโทษรวมถึงไม่ได้ดำเนินการให้มีกระบวนการแสวงหาข้อเท็จจริงเพื่อประกอบการพิจารณาโทษอันเป็นการขัดกับหลักความเป็นธรรมอย่างร้ายแรงและที่สำคัญคือหลักการเช่นนี้ไม่ควรปรากฏในวงการศึกษาของประเทศไทยและก็ไม่เคยปรากฏในวงการศึกษาไทยมาก่อน บทบัญญัตินี้ทำให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีความปรารถนาดีต่อการศึกษาไทยไม่กล้าที่จะเสนอแนะความคิดเห็นที่แตกต่าง ซึ่งเห็นว่าจะไม่เป็นผลดีต่อการศึกษาของชาติบ้านเมืองรวมถึงภาพลักษณ์ของประเทศ

ข้าพเจ้าขอกราบเรียนว่าความล้มเหลวทางการศึกษาที่ผ่านมานั้นมิได้เกิดจากการกระทำของผู้บริหารโรงเรียนหรือข้าราชการครูแต่อย่างใดแต่เกิดจากการกระทำของฝ่ายบริหารในอดีตที่สร้างการเปลี่ยนแปลงโดยอาศัยแนวคิดทฤษฎีจากต่างประเทศที่มิได้สอดคล้องกับบริบทของประเทศไทย ไม่ฟังเสียงทัดทานจากผู้ที่มีส่วนได้เสียในเรื่องการจัดการศึกษาเช่นผู้บริหารโรงเรียนและข้าราชการครู ไม่เปิดโอกาสให้ผู้บริหารโรงเรียนและข้าราชการครูได้มีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็น ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะโปรดเมตตารับฟังและหาทางแก้ไขเยียวยาให้การศึกษาของไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่ความขัดแย้งอย่างรุนแรงและก้าวเข้าสู่ความวิกฤติทางการศึกษาได้กลับฟื้นคืนมาเพื่อสร้างเยาวชนให้เป็นกำลังสำคัญและอนาคตที่ดีของชาติสืบต่อไป

อ่านเพิ่มเติม

ชร.ผอ.สพท.หนุน ‘บิ๊กเขต’นั่งบอร์ดบริหารบุคคล สัดส่วนเท่าผู้ทรงคุณวุฒิ เชื่อระยะยาว 2 ฝ่ายหาจุดลงตัวได้
ชร.ผอ.สพท.แนะแก้คำสั่ง’คปภ.’ ดึงผู้แทนร่วมกลั่นกรองก่อนชง ‘บอร์ดบริหาร’ ยันต้องแยก 2 บอร์ดออกจากกัน
ปธ.ชมรมศธจ.ห่วงผอ.สพท.ใช้อำนาจซ้ำซ้อน ทั้ง ‘ชงข้อมูล-กลั่นกรอง-โหวตเอง’ เล็งหารือกำหนดท่าที
‘หมอธี’ชง ‘บิ๊กตู่’ แก้คำสั่งคสช.แล้ว เผย ‘ผอ.สพท.’นั่งบอร์ดบริหารบุคคล สัดส่วนเท่าผู้ทรงคุณวุฒิ
ส.บ.ม.ท. เรียกร้อง ‘ศธจ.’ คืนอำนาจม.53 มอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน
ศธจ.แนะผอ.สพท.นั่งกก.บริหารบุคคลไม่เกิน 5 คน ให้’บอร์ดบูรณาการ’คุมเพื่อคานอำนาจ
แกนนำครู’ใต้-อีสาน’ ผนึกกำลังต้าน’ศธจ.’หลังดอดยื่นข้อเสนอศธ. จี้เร่งคืนอำนาจม.53 ให้ ‘ผอ.สพท.-ผอ.ร.ร.’
‘หมอธี’แจงศธจ.ยื่นนายกฯ แค่เรื่องเก่า คาดร่างแก้ไขคำสั่งคสช. ประกาศใช้สัปดาห์หน้า
เปิดใจ ‘ปธ.ชร.ผอ.สพท.’ หลังโดนกระแสกระหน่ำ ‘เคลื่อนไหวแก้ไขคำสั่งคสช. เพราะหวงอำนาจ’
ผอ.โคราช6 เชื่อ มีผอ.สพท.ทุกคนนั่งเป็นกก.บอร์ดบริหาร เป็นจุดแข็ง ช่วย ‘คานอำนาจ-ตรวจสอบกันเอง’
ส.บ.พ.ท.หนุนผอ.สพท.ทุกคนในจังหวัด นั่งกก.บริหารบุคคล เหตุเป็นผู้บังคับบัญชาครูย่อมรู้ ‘ข้อมูล-ปัญหางานบุคคล’
สมาคมครูร้อยเอ็ดจี้นายกฯ ขอเป็นร.ร.นิติบุคคล ให้เวลา 3 เดือน ก่อนกำหนดท่าทีเคลื่อนไหว
ห่วงบอร์ดบริหารบุคคล’คานอำนาจ’ผอ.สพท.ไม่ได้ ชมรมศธจ.ปัดยื่นหนังสือนายกฯ
‘หมอธี’ชง’บิ๊กตู่’แก้คำสั่งคสช.2-3 วันนี้ หลังเคลียร์อำนาจบรรจุแต่งตั้ง ‘ผอสพท.-ศธจ.’ลงตัว
จูบปาก!! ‘ปธ.ศธจ.-ปธ.ชร.ผอ.สพท.’พอใจ ‘ปลัดศธ.-สพฐ.’เคลียร์อำนาจ ‘บรรจุแต่งตั้ง’ ลงตัว
ปลัดศธ.ชง’หมอธี’แก้คำสั่งคสช.แล้ว ‘กศจ.-ผอ.สพท.’ใช้อำนาจบริหารบุคคล ผอ.ร.ร.เซ็น’ตั้ง-เลื่อนงด.’ครูผช.-คศ.1′(คลิป)
หย่าศึก’สพท.-ศธจ.’!! ตั้ง 2 องค์คณะ ให้‘กศจ.-ผอ.สพท.’ใช้อำนาจคู่บริหารบุคคล ชร.ผอ.สพท.พอใจ เชื่อ ‘งานเร็ว-ไร้ทุจริต’
ด่วน!! ‘บุญรักษ์-การุณ’ แถลงทางออกปมขัดแย้งผอ.สพท.-ศธจ.จากคำสั่งคสช. ที่รร.ตรัง เช้านี้
ฮาร์ดคอร์!! นายกสมาคมครูร้อยเอ็ด จี้ศธ.ยุบ ‘ศธภ.’ ลดบทบาท ‘ศธจ.’ เหลือกำกับนโยบาย
ชมรมครูร้อยเอ็ด ชงนายกฯ โละคำสั่งคสช.19/60 13 ธ.ค.นี้ ยันถ้าไม่แก้ ทำระบบการศึกษาพื้นฐานเสียหายแน่
ดาหน้าชน!! สพป.อุดรธานี1 ซัด’ปธ.ชมรมศธจ.’บิดเบือน ยัน’บรรจุ-เลื่อนงด.ครู’ ล่าช้า เหตุศธจ.ชงกศจ.ช้า
คนละหมัด!! ศธจ.ต้านคืนอำนาจบิ๊ก’เขต-ร.ร.’ แจงเพิ่งตั้งไข่แต่แก้ทุจริตย้าย’ครู-ผอ.’ได้ ซัดกลับผอ.สพท.ชงเรื่องอืด
ผอ.ร.ร.สุรินทร์แท็กทีมฟ้องศธจ.หลังไม่กล้าลงนามย้ายไปร.ร.ใหม่ตามมติกศจ.
สพฐ.ปัดแบ่งส่วนเขตพื้นที่ เหลือแค่งานเสมียน ยันผู้บริหารพื้นที่มีอำนาจเต็ม เตรียมจัดกรอบอัตรา’สพท.-ศธจ.’ใหม่
นักวิชาการหนุนศธ. หลังผุดไอเดียงานบุคคล ใช้อำนาจคู่ ‘ผอ.สพท.-บอร์ด’ เพื่อตรวจสอบ จี้ ‘หมอธี’ ยุบศธภ.
ผอ.ร.ร.มุกดาหาร ขานรับร่างแก้ไขคำสั่งคสช. ฉบับ ศธ. ชี้ลดปัญหารถไฟ 2 ขบวนวิ่งทับเส้นทาง
จบสวย!!ชร.ผอ.สพท.ยอมรับร่างแก้ไขคำสั่ง คสช.ฉบับ ศธ. ยอมชะลอเคลื่อนไหว
เลขาฯ กพฐ.เล็งผุด2บอร์ด ‘บูรณาการศึกษา-บริหารงานบุคคล’ แจงงานบุคคล ใช้อำนาจคู่ ‘กศจ.-ผอ.สพท.’ เพื่อคานอำนาจ
หย่าศึก!! ‘หมอธี’ชงนายกฯ แก้คำสั่งคสช.สัปดาห์นี้
ชร.ผอ.สพท.ไม่ติดใจแบ่งส่วนเขต หลังจัดภารกิจใหม่เหลือแค่งานเสมียน เหตุเป้าหมายใหญ่ทวงคืนอำนาจ ม.53
ส.บ.ม.ท.ย้ำต้องคืนอำนาจ ‘บริหารงานบุคคล’ให้ผอ.สพท. ยันครูหนุนสพท.แต่จะไม่ประท้วงด้วยการหยุดสอน
เปิดร่างแก้ไขคำสั่งคสช. ยกเลิกข้อ 13 ฉบับ ชร.ผอ.สพท.
ดาหน้าต้าน!! ผอ.ร.ร.-ผอ.สพป.ยันต้องยกเลิกข้อที่ 13 ของคำสั่งคสช.เท่านั้น ผอ.ร.ร.ในสุรินทร์เล็งฟ้องศธจ.
ปธ.ชร.ผอ.สพท.ย้ำต้องโละข้อ 13 ของคำสั่ง คสช.เท่านั้น เล็งยื่นร่างแก้ไขฉบับชร.ผอ.สพท.ประกบให้นายกฯ พิจารณา
ผช.ปลัดศธ.ยันขัดแย้ง ‘ผอ.สพท.-ศธจ.’ เรียบร้อยเดือนนี้ ชี้ยกเลิก ‘ข้อ 13 คำสั่งคสช.’ ไม่ใช่ทางแก้ปัญหา
อดีตบิ๊ก สพป.เชียงราย 1 แจงไม่ส่ง จนท.ร่วมประชุมลูกเสือ เหตุบุคลากรน้อย อยากให้เร่งเคลียร์งาน ปัดขัด สป.ศธ.
เลขาฯกพฐ.แจง กศจ. พิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนครูช้าบ้าง เป็นเรื่องปกติ ยันแก้คำสั่งคสช. แต่ไม่ยกเลิกข้อ 13
ของขวัญปีใหม่!! ‘หมอธี’ถอย ชงนายกฯ แก้คำสั่งคสช. เกลี่ยอำนาจ’ศธจ.-สพท.’ ยันเรียบร้อยเดือนนี้
สะดุ้ง!เสนอยุบทิ้งทั้ง’สพท.-ศธจ.’ นักวิชาการชี้เพิ่ม 2 กลุ่มแค่’ยาหอม’ หึ่ง!ซี 8 ใน 225 เขตพื้นที่ฯพุ่ง 450 คน
สยบข่าวลือ!! สพฐ.ปัดย้าย ‘ผอ.สพป.โคราช 7’ แจงปมรก.ผอ.สพป.เชียงราย 1 ยันเพิ่ม 2 กลุ่มงานเขต 450 ตำแหน่ง ไม่เป็นภาระงบ
ส.บ.ม.ท.ซัดโครงสร้าง ศธจ. ทำ ร.ร.รับใช้งาน มท.เหมือน 40 ปีก่อน เผย ‘น.ร.-ครู’ต้องเสิร์ฟน้ำให้งานผู้ว่าฯ
ฟ้องอุตลุด!! ผอ.ร.ร.ในอีสานฟ้อง ศธจ. ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตาม ม.157 หึ่ง!ปมยังไม่พิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนครู
ระอุ!! ผอ.ร.ร.ในอีสานงัดข้อ ศธจ.อีก ตอบหนังสือชี้แจงเรื่องร้องเรียนจัดซื้อจัดจ้าง “ทราบ-รอผอ.สพท.สั่งการ”
ชง3สูตรให้ศธ.แก้ปมโครงสร้างใหม่ ไม่เชื่อคืนอำนาจมาตรา53บางส่วนได้ เดินหน้าชง’บิ๊กตู่’โละข้อ13คำสั่งคสช.
จูบปาก!! สป.ศธ.จับมือ สพฐ.คลอด 5 แนวทางปฏิบัติงาน ดึง ‘เขตพื้นที่ฯ-ศธจ.’ ปรองดอง
แสบๆ คันๆ!! ฟังคำตอบ ส.บ.ม.ท. ส่งตรง’หมอธี’ กับคำถาม ‘รวมตัวขับไล่ศึกษาธิการจังหวัด ทำแล้วได้อะไร’??
มาคุ! ชร.ผอ.สพท.ขู่ยื่น’บิ๊กตู่’แก้โครงสร้างศธจ.เองถ้า’หมอธี’ไม่รับลูก ซัด 8 เดือนปัญหาอื้อ เล็งล็อบบี้พรรค
แซ่ด! แบ่งกลุ่มงานสพท.ใหม่ เขตพื้นที่ฯ ทำแค่ ‘งานเสมียน’ ให้ศธจ.
ศธ.ออกประกาศแบ่งส่วนราชการ “เขตพื้นที่ฯ” มอบภารกิจ 12 ด้าน แต่ไร้อำนาจบริหารงานบุคคล
ศธ.เตรียมชง ‘คปภ.’ คืนอำนาจ ม.53 ให้ผอ.สพท.บางส่วน หลังผอ.สพป.งัดข้อศธจ.ปฏิเสธร่วมงาน
‘หมอธี’ปัดตอบกรณีความขัดแย้ง ‘สพท.-สป.ศธ.’ โบ้ยถามปลัดศธ.
คำตอบของเลขาฯ กพฐ. ต่อกรณีผอ.สพท.งัดข้อศธจ./สป.ศธ. ปฏิเสธร่วมงาน “ทราบ-ไม่ไป”
โผล่อีก! ผอ.สพป.เชียงราย 1 ตอบปฏิเสธสป.ศธ.เชิญร่วมประชุมลูกเสือ-เนตรนารี “ทราบ-ไม่จำเป็นต้องไป”
‘หมอธี’แจงไร้อำนาจแก้โครงสร้าง’ศธจ.’ หลังชมรม ผอ.เขตล่า 5 หมื่นชื่อจี้คืนอำนาจบรรจุแต่งตั้ง
ปฏิกิริยา ผอ.สพป.โคราช 7!! หลังฟังคลิปเสียงปลัด ศธ.ปรามกรณีตอบหนังสือ ศธจ. “ทราบ-ไม่ไป”
‘การุณ’ รับคลิปเสียงตัวเองจริง ย้ำให้กำลังใจศธจ.ทำงานเข้มแข็ง อย่าแตกแยกกับสพท.
ชมรมผอ.สพท.ต้านโครงสร้างศธจ. ล่า5หมื่นชื่อจี้รมว.ศธ.คืนอำนาจเขตพื้นที่ฯ
แชร์ว่อน!! คลิปเสียงปลัดศธ. กำราบผอ.สพป.โคราช7หลังงัดข้อศธจ.ปฏิเสธหนังสือเชิญ “ทราบ-ไม่ไป” (คลิป)
ผอ.สพป.โครราช 7 แจงปฏิเสธร่วมงานประดับอินทรธนูครูบรรจุใหม่ เหตุ ‘ศธจ.’ ไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาครูโดยตรง
แค่หนังตัวอย่าง’สพป.โคราช7ต้าน’ศธจ.’!! นักวิชาการจี้คสช.ลดอำนาจต้นสังกัด ให้ร.ร.เป็นนิติบุคคล
ศธ.รับ’ศธจ.-สพท.’ขัดแย้ง เรื่องปกติช่วงปรับโครงสร้าง เล็งโยกอำนาจ’ลงโทษทางวินัย-แต่งตั้งรก.’กลับสพท.
ฮือฮา!! ผอ.สพป.โคราช 7 ปฏิเสธหนังสือศธจ.โคราช เชิญร่วมงานครูบรรจุใหม่ “ทราบ-ไม่ไป”

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image