สพฐ.ชี้บรรจุ 3 พันว่าที่ผอ.ร.ร.ค้างท่ออยู่ที่ก.ค.ศ.พิจารณา

นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงกรณีที่สมาคมครูจังหวัดร้อยเอ็ด ยื่นหนังสือร้องเรียนถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอให้มีการบรรจุว่าที่ผู้อำนวยการสถานศึกษา ที่สอบผ่านกว่า 3,000 คน ก่อนบัญชีจะหมดอายุ ในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ ว่าการเรียกร้องของครูกลุ่มนี้ถือเป็นสิทธิ์ที่สามารถดำเนินการได้ แต่การพิจารณาอยู่ที่คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่าจะตีความอย่างไร ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นผู้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการเข้าสู่ตำแหน่งผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการสถานศึกษา ที่คณะกรรมการก.ค.ศ. เป็นผู้กำหนด โดยในขณะนั้นก.ค.ศ.กำหนดให้การประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกจะประกาศมากกว่าตำแหน่งที่ว่าง 10% เพื่อให้มีลำดับสำรอง หรือกรณีมีผู้สละสิทธิ์และผู้ผ่านการคัดเลือกทั้งหมดต้องเข้ารับการอบรม การคัดเลือกผู้บริหารสถานศึกษาในครั้งนั้น ไม่มีการขึ้นบัญชีสำรอง บรรจุตามอัตราที่ประกาศรับ และเมื่อบรรจุเสร็จสิ้นก็ถือว่าจบ

“ผู้ที่ได้รับการประกาศรายชื่อใน10% ชุดนี้คิดว่า ตัวเองได้รับการอบรมแล้ว จึงออกมาเรียกร้องสิทธิ์ ซึ่งสามารถทำได้ แต่การพิจารณาขึ้นอยู่กับก.ค.ศ. หากว่าตามหลักเกณฑ์จริงๆ ไม่สามารถบรรจุได้ แต่มีบางกรณีที่สามารถบรรจุได้ เช่น มีตำแหน่งว่างในขณะนั้น กรณีนี้สพฐ.ดำเนินการตามหลักเกณ์และวิธีการฯ ที่ก.ค.ศ.กำหนด หากจะให้ดำเนินการเกินกว่านั้น ก็อยู่ที่การพิจารณาของก.ค.ศ. “เลขาธิการกพฐ.กล่าว และว่า อย่างไรก็ตามแม้จะมีตำแหน่งว่าง แต่ก็ต้องมองใน 2 ประเด็นคือ ตำแหน่งว่างดังกล่าว ถือเป็นโอกาสของคนที่ยังไม่เคยสอบคัดเลือก หากบรรจุคนกลุ่มนี้ก็อาจทำให้คนที่รอสอบเสียประโยชน์ เกิดการคัดค้านหรือนำไปสู่การฟ้องร้องได้ ซึ่งเรื่องนี้ ไม่มีใครผิด ถูกทั้ง 2 ฝ่าย ดังนั้นอยู่ที่ก.ค.ศ. จะพิจารณา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image