- ถ้าหากใครยังจำภาพยนตร์เรื่อง แฟนฉัน ได้ คงคุ้นหน้าคุ้นตากับอดีตดาราเด็กที่โด่งดังอย่าง อ๋อง แฟนฉัน หรือ ธนา ตันตรานนท์ ที่แม้จะเขาจะมีชื่อเสียงจากภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวแต่ทุกอย่างก็หายไปดังสายลม เพราะเขาหายหน้าหายตาจากวงการบันเทิงผันตัวไปขายงานศิลปะทำมือ และหันหลังให้รั้วจากการศึกษา จนปัจจุบันนี้เขามีผลงานภาพยนตร์เรื่อง คิดถึงทุกปี Memories of New Year ที่ศูนย์การค้าเอสพลานาด และเมื่อได้เจอเจ้าตัว เขาก็ขออัพเดทชีวิตให้ฟังมาว่า ขณะนี้เขากำลังรอเพื่อกลับสู่รั้วการศึกษา เลือกหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียน โดยจะกลับไปเรียนในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เพราะที่ผ่านมาตนศึกษาระดับประกาศนียบัตร
วิชาชีพ(ปวช) แต่ไม่สำเร็จ จึงมีวุฒิการศึกษาเพียงแค่มัธยมศึกษาตอนต้นเท่านั้นเอง
“การศึกษาเป็นสิ่งที่ดีมากนะครับ เราเรียนรู้เองก็ดีเพราะว่าเราก็อยู่กับศิลปินรุ่นพี่ แต่ว่าคือ เอาง่ายๆวันหนึ่งเราข้างหน้ามันไม่แน่นอน ”
“เราก็เคยคิดว่าเราเก่ง แต่ว่ามันไม่แน่นอนไง ชีวิตมันไม่แน่นอน แล้วพอเราจะหาอะไรทำ เราไม่มีวุฒิ ไม่สามารถไปไหนได้เลย เราจบม.3 มันทำอะไรไม่ได้เลย”
และหากจบวุฒิการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลายตนตั้งใจจะเรียนมหาวิทยาลัยด้านภาพถ่ายที่ตนถนัด
“อย่างน้อยถ้าเราเรียนมาแล้วยังไม่ได้ใช่วันนี้ แต่พรุ่งนี้อาจได้ใช้ก็ได้ อย่างน้อยเรามีวุฒิว่าเราเรียน แล้วเราก็มีพื้นฐานจากห้องเรียน ในสิ่่งที่เราเรียน แล้วถ้าเป็นไปได้อยากจบปริญญาตรี อยากทำให้เต็มที่”
ทั้งนี้เขายังเล่าถึงเหตุการณ์เก่าๆสมัยเมินใส่รั้วการศึกษามาว่า เพราะตอนนั้นคิดว่าตนเองเอาตัวรอดอย่างเต็มที่ด้วยความสามารถที่มีโดยไม่ง้อปริญญา แต่สุดท้ายกลับพบว่า ทุกอย่างที่ทำไม่มีความแน่นอน
“คิดว่าเราหาเงินได้ แต่ว่าพอมันมาถึงจุดหนึ่ง แล้วสิ่งที่เรารู้จริง เราก็ไม่ได้เรียนตั้งแต่พื้นฐานไง เราก้าวกระโดดจนบางอย่างมันขาดหายไป ”
“เราจะก้าวกระโดด มันเลยทำให้เรากระโดดพลาด แล้วก็เป็นแบบนี้ มันก็ลำบากนะ”
จากนี้อดีตดาราเด็กกล่าวถึงอนาคตตัวเองว่าวางแผนจะเรียนให้สำเร็จและอยากทำงานในวงการควบคู่ไปด้วย จากนี้หากมีงานอะไรที่ตนสามารถรับได้นั้นตนจะทำเต็มที่ เพราะเสียดายเวลาที่ผ่านมากว่า 7ปี ที่ไม่มีประโยชน์
“ตอนนี้เสียดายมาก เราเสียเวลาไป 7 ปีได้ ตั้งแต่ 18 ใช้ชีวิตอย่างเดียวเลย ไม่ได้เรียน ”
“ตอนนี้เราก็กลับมาทำงานในวงการบันเทิง ก็คือถ้ามีงานรับงาน วางแพลนกลับไปเรียน อาจจะทำงานไปด้วย ไม่ให้เสียเวลา ไม่ทิ้งเวลาอีกแล้ว เพราะว่าเราเข็ด แล้วครับ เสียไปฟรี ”