นายกฯ ขอบคุณ กอ.รมน.ปฏิบัติงานความมั่นคง พื้นที่จว.ชายแดนใต้ น่าพอใจ การก่อเหตุ-เสียชีวิต-บาดเจ็บลดลงกว่าปีก่อน เดินหน้าสร้างความปรองดองในพื้นที่ หนุนเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรกล่าวมอบนโยบายในงานสรุปผลงานการปฏิบัติงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร(กอ.รมน.)ว่า ขอบคุณทุกหน่วยงาน ทั้งในส่วนกอ.รมน.และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ที่ปฏิบัติงานร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาด้านความมั่นคง จนมีผลปฏิบัติงานเป็นที่น่าพอใจ โดยในปีที่ผ่านมา มีผลสัมฤทธิ์ที่สำคัญ ได้แก่ ปัญหาการก่อเหตุในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เหตุความมั่นคงลดลงร้อยละ 56.5 เมื่อเทียบกับปี 59 สำหรับการสูญเสีย ปีนี้มีผู้เสียชีวิต 99 ราย บาดเจ็บ 219 ราย ซึ่งเสียชีวิตลดลงจากปีก่อน 34 ราย และบาดเจ็บลดลง 192 ราย คิดเป็นร้อยละ 41.5 ถือเป็นความสำเร็จที่สำคัญต่อการสร้างสันติสุขในจังหวัดชายแดนใต้ โดยกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า สรุปสถานการณ์ในพื้นที่ ว่าที่เหตุการณ์ในภาพรวมลดลงน่าจะเกิดจากการปฏิบัติการเชิงรุกของเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง ทั้งยุทธวิธี และการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ก่อเหตุ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในส่วนการพัฒนาด้านอื่น อาทิ มีการประสานและทำความร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ในการกำหนดให้ กศน. จำนวน 7,428 แห่ง เป็นศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ การจัดตั้งและเสริมสร้างศักยภาพหมู่บ้าน ชุมชนเข้มแข็งเอาชนะยาเสพติดตามแนวชายแดน จำนวน 1,120 หมู่บ้าน และฝึกอบรมราษฎรอาสาป้องกันยาเสพติด จำนวน 45,600 คน การลาดตระเวนน่านน้ำสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองตามแนวชายฝั่งอันดามันและลำน้ำกระบุรี ในพื้นที่จังหวัดระนอง 180 ครั้ง ไม่พบการกระทำผิด การเข้าร่วมในการจัดระเบียบสังคม เช่น เด็กแว้น และการตรวจสถานประกอบการ ให้เกิดผลยั่งยืน
ในส่วนการสร้างบรรยากาศแห่งความสามัคคีปรองดอง ไม่สร้างความแตกแยก ไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง ขยายผลจากมวลชนของ กอ.รมน. และมวลชนของส่วนราชการต่างๆ ร่วมทำความเข้าใจและเสริมสร้างความสามัคคีปรองดองกับผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น นักการเมืองท้องถิ่น และระดับประเทศ ให้ข้อเท็จจริงเท่านั้น เพื่อแสวงหาความร่วมมือ ไม่ได้มุ่งหวังด้านการเมือง โดยสนับสนุนการเลือกตั้ง ให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม และโปร่งใส เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ขจัดการซื้อเสียง การทุจริตทุกรูปแบบ ทั้งนี้ ให้ใช้การพัฒนานำการทหาร อย่าสับสนว่า การเมืองกับการทหาร และนักการเมืองแยกจากกันไม่ได้ การเมืองก็คทอการพัฒนาประเทศ พัฒนาประชาชน ซึ่งต้องมีกรอบนโยบายชัดเจน ทหารใช้ยุทธวิธีทางทหาร ซึ่งเราไม่ได้ใช้การสู้รบเต็มรูปแบบ ใช้กับผู้ถืออาวุธเท่านั้น
“ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ภัยคุกคามด้านความมั่นคงทั้งหลาย คงไม่เกินขีดความสามารถของกำลังพลใน กอ.รมน. และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในการป้องกัน ระงับยับยั้ง หรือแก้ไขปัญหา ผมจะเป็นกำลังใจ และเฝ้าดูการปฏิบัติงานของพวกท่าน งานของท่านเมื่อบรรลุวัตถุประสงค์ มีผลสัมฤทธิ์อย่างชัดเจน จะเป็นส่วนสำคัญทำให้ประเทศไทยสามารถยืนหยัดอยู่ได้ในโลกนี้อย่างมีเกียรติภูมิ ประเทศชาติมีความมั่นคงปลอดภัย มีความสงบสุข และประชาชนมีความ มั่งคั่ง มีความเสมอภาคและเท่าเทียมกัน อย่างยั่งยืน ตลอดไป” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
